ในระหว่างการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 15 ประเทศ ที่มหานครนิวยอร์ก นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่าโจมตีระบบอาหารโลก เพิกเฉยต่อคำอุทธรณ์ของโลกด้วยการถอนตัวจากข้อตกลง 4 ฝ่ายระหว่างรัสเซีย ยูเครน ตุรกีและสหประชาชาติ ที่อนุญาตให้ยูเครนขนส่งธัญพืชมากกว่า 32 ตันจากท่าเรือทะเลดำไปยังประเทศยากจน ซึ่งสหรัฐฯ เห็นว่า รัสเซียไม่ควรนำ ‘ความหิวโหย’ มาเป็นอาวุธ และเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันบอกต่อรัสเซียให้หยุดการกระทำที่เหมือนกับเป็นการ ‘แบล็กเมล์’
การที่รัสเซียปฏิเสธที่จะขยายข้อตกลง ส่งผลให้ราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 8 ซึ่งนายบลิงเกน กล่าวด้วยว่าหากรัสเซียกลับเข้าสู่ข้อตกลง สหรัฐฯ จะทำ “สิ่งใดก็ตามที่จำเป็น” เพื่อให้แน่ใจว่ารัสเซียสามารถส่งออกอาหารได้อย่างเสรี
ข้อตกลง 4 ฝ่ายมีการลงนามในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 เพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลก ด้วยการรับประกันการส่งออกธัญพืชของยูเครนไปยังประเทศยากจน แต่รัสเซียยื่นเงื่อนไขให้มีการค้ำประกันการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยของรัสเซียที่อยู่ในมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งรัสเซียระบุว่า ในขณะที่การส่งออกของยูเครนมีความคืบหน้าไปมาก แต่รัสเซียยังไม่สามารถส่งออกสินค้าของตนเองได้ นายดมิทรี โปลียานสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ แถลงต่อที่ประชุมเดียวกันว่า การคว่ำบาตรของตะวันตกส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาหารและปุ๋ยของรัสเซีย และมีเพียงการยกเลิกมาตรการต่อรัสเซียเท่านั้น จึงจะสามารถฟื้นฟูการทำงานปกติของห่วงโซ่การผลิตและแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านอาหารทั่วโลกได้
..
#สหรัฐฯ
#รัสเซีย
#ธัญพืชยูเครน
#คณะมนตรีความมั่นคงฯ