ผบ.ตร.เผย มีคำสั่งย้าย จ่าฟาโร สภ.มูโนะ มือเก็บส่วย-ยังไม่ตั้งคณะทำงานสืบสวนฯ

03 สิงหาคม 2566, 15:56น.


          พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือขอให้มีการตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดที่บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายกว่า 400 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บโดยให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดการตรวจสอบส่วย ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 2 ส.ค.คงจะรวบรวมเป็นเรื่องเดียวกันซึ่งจะพิจารณามอบหมายอีกครั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นต้องดำเนินการตรวจสอบให้กระจ่างว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตหรือส่วยจริงหรือไม่ ซึ่งจะชี้แจงให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ส่วนจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจหรือไม่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานนั้น ต้องขอตรวจสอบเบื้องต้นก่อนแต่ยังไม่ถึงกับตั้งคณะทำงานตอนนี้ ขอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน



           ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงว่า จ.ส.ต.มาหามัดฟาโร ตันยีนายู ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.มูโนะ หรือ จ่าฟาโร เป็นมือเก็บส่วยนั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า ในพื้นที่มีคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่แล้วเช่นเดียวกับ 4 เสือ สภ.มูโนะ เพื่อให้ง่ายต่อการสอบสวน ส่วนจะมีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ ขอให้มีความชัดเจนกว่านี้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจโดยตรงยังไม่ขอพูดไปก่อนเกรงจะกระทบหน่วยงานอื่นด้วย



          สำหรับการตรวจสอบที่พบว่า เมื่อปี 2553 ตำรวจภูธรภาค 9 ออกหนังสืออำนวยความสะดวกในการขนส่งพลุให้บริษัทเจ้าของโกดังว่า จะต้องไปตรวจสอบก่อนเพราะหนังสือดังกล่าวนานหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าเกี่ยวพันกับเรื่องนี้อย่างไร ยังใช้ได้หรือไม่ เบื้องต้น ไม่น่าจะเป็นหนังสืออนุญาตแต่เป็นการแนะนำว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของใคร ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ส่วนสาเหตุของการเกิดระเบิดน่าจะเกิดจากความประมาทเลินเล่อของคนที่อยู่ในโกดัง หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องใครมีหน้าที่ดูแลปล่อยให้มีการเข้าไปก็ถือว่าเกี่ยวข้องกับประมาทก็ต้องถูกดำเนินคดีหมด



           มีรายงานว่า จากข้อมูลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พบว่า ร้านที่เกิดเหตุระเบิดได้ขออนุญาตเคลื่อนย้ายวัสดุ พลุและดอกไม้ไฟ จากบริษัทส่งออก ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2565 สิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2566 โดยได้ขออนุญาตเคลื่อนย้าย ประทัดจำนวน 5 ลัง ดอกไม้ไฟ จำนวน 50 ลัง และพลุ จำนวน 10 ลัง หลังจากนั้นได้ยื่นหนังสือขออนุญาตอีกเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 แต่กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายังไม่อนุญาตเนื่องจากเอกสารไม่ครบ และยังไม่ได้มีการยื่นเอกสารเพิ่มเติม



          อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า พลุและดอกไม้ไฟส่วนใหญ่ ที่จำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาจากโรงงาน หรือ โกดังหลัก 2 แห่ง ที่เปิดเป็นบริษัทถูกต้องในการทำกิจการค้าพลุและดอกไม้ไฟ แต่หากมีการเคลื่อนย้ายมายังสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริษัทจะต้องแจ้งขออนุญาตจาก กอ.รมน.ก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์



          โดยทั่วไป บริษัทจะรวบรวมคำสั่งซื้อจากร้านค้าต่างๆในพื้นที่ และยื่นขอใบอนุญาตเคลื่อนย้ายในคราวเดียวกัน โดยจะมีการแจ้ง จำนวนที่มีการขนย้าย และปลายทางหรือ ร้านค้า ที่จะรับสินค้าเหล่านั้น ซึ่งใบอนุญาตจะมีอายุทุกๆ 6 เดือน  แต่ตั้งแต่ต้นปียังไม่พบการขออนุญาตเคลื่อนย้ายพลุและดอกไม้ไฟที่ถูกต้องตามกฎหมาย



 



#โกดังพลุระเบิด



#นราธิวาส 



 

ข่าวทั้งหมด

X