กทม.ชี้ ‘แอชตัน อโศก’ไม่ต้องรื้อถอนอาคารแต่ให้ปรับแก้และขออนุญาตก่อสร้างใหม่ภายใน 30 วัน

03 สิงหาคม 2566, 13:02น.


          วันนี้ (30 ส.ค.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล  รองผู้ว่าฯ กทม. และนายสุรัช ติระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมอาคาร แถลงแนวทางการแก้ปัญหาของคอนโดมิเนียมโครงการแอชตัน อโศก



          โดยนายวิศณุ  ระบุว่า  การพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้าง กทม.จะพิจารณาตามกฎกระทรวงควบคุมอาคาร โดยการยื่นแจ้งก่อสร้างครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2558  แต่ กทม.มีข้อทักท้วงเรื่องแบบแปลนไป  จากนั้นทางโครงการได้ยื่นแจ้งดัดแปลงมาอีก 3 ครั้ง ระหว่างปี 2558 – 2560 ซึ่ง กทม.ก็ได้แจ้งข้อทักท้วงเรื่องแบบแปลนและเรื่องที่ดินทางเข้าออกของ รฟม.ไปทั้ง 3 ครั้ง และระหว่างนั้นมีผู้ฟ้องร้องคดีเกิดขึ้น  และเมื่อสร้างเสร็จ ก็มีการยื่นขอเปิดอาคารในปี 2560 ทาง กทม.ก็ทักท้วงไปอีกครั้ง เพราะมีคดีฟ้องร้องเรื่องทางเข้าออกที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด  ทางโครงการได้ยื่นอุทธรณ์ไปที่คณะกรรมการควบคุมอาคาร ซึ่งคณะกรรมการฯ พิจารณาว่า กทม.ควรออกใบอนุญาตให้ สำนักการโยธา กทม.จึงออกใบอนุญาตให้แบบมีเงื่อนไขว่า ที่ดินที่ตั้งโครงการ อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง  ที่มีผู้ฟ้องคดีกรณีโครงการใช้ที่ดินของ รฟม. หากศาลมีคำสั่งพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด  แล้วผลการพิพากษาชี้ว่าอาคารโครงการขัดต่อกฎหมาย  ผู้ได้รับใบรับรองจะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งต้องแก้ไขอาคารให้ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย





          ด้านนายชัชชาติ  ระบุว่า  กทม.จะปฎิบัติตามคำสั่งศาล  และตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 41 ระบุว่า สามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนอาคารให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ และให้เวลาในการยื่นขอใบอนุญาตใหม่ให้ถูกต้อง ภายใน 30 วัน  โดยในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.66) กทม.จะส่งหนังสือเพิกถอนใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างโครงการ ให้สำนักงานเขตวัฒนา และแจ้งไปยังบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ตามคำสั่งศาลปกครอง  จากนั้นให้ทางบริษัทยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่  แต่หากทางบริษัทไม่สามารถส่งหนังสือแจ้งยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ได้ทัน  ก็สามารถขยายเวลาเป็น 120 วันได้  พร้อมกับแจ้งรายละเอียดการขอขยายเวลา





          ส่วนลูกบ้านของโครงการ ยังสามารถพักอาศัยและใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมทั้งใช้ทางออกเดิมได้  ซึ่งถ้ามอบจากคำตัดสินของศาล ศาลเพียงต้องการให้ตีความเจตนารมณ์ของกฎกหมายที่บัญญัติไว้ว่าให้การขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง ไม่เกี่ยวข้องกับการเพิกถอนการใช้ทางออก และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัย เพราะอาคารไม่มีความเสี่ยงเรื่องตึกถล่ม และรถดับเพลิงก็ยังสามารถใช้ทางเข้าออกได้





        ขณะเดียวกัน กทม.เสนอแนวทางให้เปิดพื้นที่ทางออกของโครงการ ทางซอยสุขุมวิท 19  โดย กทม.จะได้รังวัดพื้นที่ซอยสุขุมวิท 19 อีกครั้ง เพื่อความถูกต้องของระยะห่าง  นอกจากนี้ยังมีทางออกฝั่งสุขุมวิท 21 ที่เชื่อมกับถนนอโศกมนตรี ก็มีความกว้างตามที่กฎหมายกำหนด  ส่วนค่าใช้จ่ายในการซื้อที่ดินเพื่อเปิดทางออก ทาง กทม.ไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบ เพราะปฎิบัติตามขั้นตอนในการออกใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างแล้ว นอกจากนี้ กทม.จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างโครงการดังกล่าว  เพื่อความโปร่งใสในการทำงาน



#แอชตันอโศก



 

ข่าวทั้งหมด

X