ความคืบหน้าชีวิตความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ หลังจากกลับถึงประเทศไทยและอยู่ในระหว่างการกักกันโรค ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ซึ่งเมื่อเวลา 14.00 น.ทางเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang ได้ไลฟ์ถ่ายทอดสดสภาพความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ ให้ประชาชนได้ติดตาม ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ที่จังหวัดลำปาง มีฝนตกลงมาปรอยๆ พ่อพลายจึงอารมณ์ดี ยืนโบกหู แกว่งหาง เล่นน้ำฝน และยังเอางวงดูดทรายมาพ่นใส่ ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าฝนตกจะทำให้พลายศักดิ์สุรินทร์เจ็บป่วย เพราะช้างเป็นสัตว์ที่มีผิวหนังหนา ชอบอากาศเย็น ชอบเล่นฝุ่น เล่นโคลนทราย และชอบนอนแช่น้ำ
ด้าน สพ.ญ.วรางคณา ลังการ์พินธุ์ หัวหน้าโรงพยาบาลช้างลำปาง เปิดเผยว่า หลังจากประเมินสุขภาพของพลายศักดิ์สุรินทร์เบื้องต้น คืนแรกมีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทางบ้าง แต่ก็ยังกินได้และขับถ่ายปกติดี เมื่อคืนนี้ยังล้มตัวลงนอนในท่าตะแคงได้ ถือว่าเป็นสัญญาณดีที่น่าพอใจ เพราะถ้าช้างยืนหลับ แสดงว่ามีความเจ็บปวด ยิ่งถ้าเป็นติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะยิ่งมีผลต่อสุขภาพ
ช่วงนี้ที่อยู่ระหว่างการกักโรค 30 วัน จะมีทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสุขภาพทุกวันและเก็บตัวอย่างส่งไปตรวจโรคตามที่กรมปศุสัตว์กำหนด โดยเน้นการตรวจหาโรคที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคก่อน หากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีโรคติดต่อ จึงจะเคลื่อนย้ายช้างมาตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลช้าง ซึ่งก่อนเข้าสู่กระบวนการรักษา จะมีผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านมาประเมินสุขภาพช้างอย่างละเอียด รวมถึงการเอ็กซเรย์เท้าที่บาดเจ็บ
เบื้องต้น สุขภาพโดยรวมของพลายศักดิ์สุรินทร์ ถือว่าดี ไม่มีอาการน่าเป็นห่วง แผลฝียังมีโพรงที่ปิดไม่สนิท แต่ไม่เป็นอันตรายมาก ที่สัตวแพทย์กังวลคือ ขาหน้าด้านซ้ายที่งอไม่ได้ มีอาการขาลาก เดินไม่สะดวก หากไม่ได้รับการรักษาทันที ช้างที่มีน้ำหนักตัวมาก เมื่อยืนด้วยตัวเองไม่ได้แล้วล้มตัวนาน จะทำให้เกิดแผลกดทับ นอกจากนี้ ยังพบว่า ฝ่าเท้ามีความผิดปกติ คือ เล็บมีลักษณะเบี้ยวผิดรูป อาจจะเพราะยืนบนพื้นที่แข็งเป็นเวลานาน จึงต้องตัดแต่งเล็บเท้าและล้างแผล แต่ตอนนี้ต้องรอให้พลายศักดิ์สุรินทร์คุ้นเคยกับควาญไทยก่อน จึงจะเริ่มต้นกระบวนการรักษาได้ เพราะต้องทำงานเป็นทีม
ส่วนการปลดโซ่พลายศักดิ์สุรินทร์ เนื่องจากเป็นช้างที่มาใหม่ ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอกัน จึงจะใช้ช่วงที่กักโรค สังเกตพฤติกรรมและนิสัยใจคอกันก่อน เมื่อผ่านกระบวนการรักษา ก็จะพิจารณาว่าจะปลดโซ่อย่างไร
ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปฏิบัติการนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับบ้านสำเร็จได้เพราะความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในศรีลังกา,นายกรัฐมนตรี, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช,ควาญช้างและทีมสัตวแพทย์จากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.), กระทรวงการต่างประเทศ,องค์กร RARE แห่งศรีลังกาที่จุดประเด็นเรื่องนี้ และเจ้าอาวาสวัดที่ศรีลังกาที่อนุญาตให้นำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาตัว ที่สำคัญคือ พลังใจจากคนไทยทุกคน ที่ร่วมกันมอบให้พ่อพลาย
ส่วนที่หลายฝ่ายห่วงใยว่า จะต้องส่งพ่อพลายกลับไปศรีลังกาหรือไม่ น.ส.กัญจนา เปิดเผยว่า เจ้าอาวาสวัดเมตตาให้พลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาตัว โดยท่านได้ใช้คำว่า "จนกระทั่งแข็งแรงเต็มร้อย" ซึ่งคำๆนี้ ก็วินิจฉัยยาก และเมื่อดูจากสภาพของ พลายศักดิ์สุรินทร์ซึ่งทรุดโทรมมาก ก็น่าจะต้องรักษาตัวอยู่ที่เมืองไทยอีกยาวอาจจะจนสิ้นอายุขัย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า สามารถพาพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทยได้ เพราะตนบริจาคทองคำหลายกิโลกรัมนั้น จริงๆแล้ว เป็นการบริจาคสีทองสำหรับทาองค์พระ จำนวน 2.8 ตัน เนื่องจากในศรีลังกาไม่มีสีนี้ ต้องสั่งซื้อจากไทยตนที่มีจิตศรัทธาอยากจะทำบุญ จึงขอถวายสีทองให้เจ้าอาวาส และท่านก็กรุณาให้พ่อพลายกลับมารักษาตัว เนื่องจากรัฐบาลไทยมอบพลายศักดิ์สุรินทร์ให้รัฐบาลศรีลังกาแล้ว และรัฐบาลศรีลังกามอบให้กับวัดแห่งนี้ ทางวัดจึงเป็นเจ้าของพลายศักดิ์สุรินทร์
ส่วนเรื่องของช้างอีก 2 เชือกที่ศรีลังกา จะนำกลับมาด้วยหรือไม่นั้น น.ส.กัญจนา บอกว่า การนำช้างกลับมาแต่ละเชือก ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะช้างเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดที่อาศัยอยู่ ถ้าเจ้าอาวาสไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งกรณีของพลายศักดิ์สุรินทร์นั้น ท่านทูตบอกว่า มีแรงกระเพื่อมมากในศรีลังกา เพราะมีกระแสกังวลว่า ช้างจากต่างประเทศที่ถูกส่งมาศรีลังกา จะถูกนำกลับไปอีก เนื่องจากศรีลังกามีช้างที่มาจากอินเดียและพม่าด้วย แต่ในมิติที่ดีคือ น่าจะมีการตื่นตัวใส่ใจดูแลสวัสดิภาพช้างให้ดียิ่งขึ้น
กรณีของพลายศรีณรงค์นั้น ไม่น่าเป็นห่วง เพราะสภาพความเป็นอยู่ดี ได้รับการดูแลอย่างดี แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงพลายประตูผา เพราะอายุมาก ประมาณ 48 ปีแล้ว และที่เดินทางไปศรีลังกาครั้งนี้ก็ไม่ได้พบกับพลายประตูผา เพราะทางวัดอ้างว่า ตกมัน และพาช้างออกจากวัดไป
น.ส.กัญจนา บอกว่า หลังจากนี้ จะหาทางเข้าไปดูแลพลายประตูผา เพื่อให้ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องในศรีลังกา โดยเร็วๆนี้ ตนจะเดินทางไปศรีลังกาอีกครั้ง เพื่อพบพลายประตูผา
สำหรับประชาชนที่ต้องการติดตามสภาพความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ สามารถชมการถ่ายทอดสดที่เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ซึ่งจะถ่ายทอดสดทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ในเวลา 14.00 -14.30 น. และ 16.00 -16.30 น.
#พลายศักดิ์สุรินทร์
CR ขอบคุณภาพ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง และ NuNa Silpa-archa