ผู้พิพากษา ทำความเห็นแย้งเสนอศาลอุทธรณ์เอาผิด 'ประสิทธิ์ เจียวก๊กและพวกรวม 9 คน'

03 กรกฎาคม 2566, 12:34น.


ศาลสั่งจำคุก ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ ฉ้อโกง กว่าพันปี แต่โทษสูงสุดคุกได้แค่ 20 ปี สั่งปรับกว่า 100 ล้านบาท



          ในวันนี้ ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีฉ้อโกงประชาชนหมายเลขดำ อ.1837/2564 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท วีเลิฟยัวแบ็ก (ไทยแลนด์) จำกัด จำเลยที่ 1,น.ส.อมราภรณ์ หรือ พันตรีหญิงแพทย์หญิงอมราภรณ์ วิเศษสุข จำเลยที่ 2 ,บริษัท เหนือโลก จำกัด โดย นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กรรมการผู้จัดการ ในฐานะนิติบุคคล จำเลยที่ 3 ,นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน นักธุรกิจพันล้าน จำเลยที่ 4, นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ จำเลยที่ 5 ,น.ส.ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม จำเลยที่ 6 ,บริษัท เอ็มโกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด โดย น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ จำเลยที่ 7, น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ จำเลยที่ 8 และ นายกิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์ จำเลยที่ 9 ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11, 12, 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14(1) ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 341, 343 และให้พวกจำเลยคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายที่ยังไม่ได้รับคืน ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ  โดยกรณีนายประสิทธิ์ จำเลยที่ 4 ศาลได้อ่านคำพิพากษาให้ฟังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์ไปที่เรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี



          ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องรู้เห็นด้วยตัวเอง สมเหตุสมผลมีรายละเอียดเชื่อมต่อเป็นลำดับเรื่องราวความเป็นมาของการกระทำความผิดตั้งแต่เปิดธุรกิจของจำเลยที่ 1,3,4 มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ แม้ว่าจำเลยที่ 1,3,4 จะต่อสู้คดีอ้างว่ามีแผนการธุรกิจและคำนวณตามโมเดลธุรกิจดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลตอบแทนสูงนั้น เป็นเพียงแนวคิดเบิกความลอยๆ ที่โฆษณาหลอกลวงว่า ประชาชนผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนจำนวนมากนั้น ไม่สามารถกระทำได้จริง พยานและหลักฐานของ จำเลยที่ 1,3,4 ยังมีข้อพิรุธ น่าสงสัยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์



          พิพากษาว่า จำเลยที่ 1,3,4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 342 พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) ประกอบมาตรา 83 เป็นความผิดกฎหลายบทต่างกัน ให้ลงโทษ ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนที่เป็นหนักสุด



          ให้จำคุก นายประสิทธิ์ จำเลยที่4 กระทงละ 5 ปี จำนวน 321กระทง รวม 1,155 ปี และปรับจำเลยที่ 1,3 และ4 รายละ 5 แสนบาท รวม 321 กระทง รวมเป็นเงิน 145,500,000 บาท อย่างไรก็ตาม กฎหมายกำหนดให้จำคุกไม่เกิน 20 ปี คงจำคุกนายประสิทธ์ จำเลยที่ 4 รวม 20 ปี และให้ จำเลย 1,3 และ4 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายอัตราร้อยละ 5 ไม่เกินร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้อง



          ส่วนจำเลยที่ 2,5-9 พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ แต่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ทำความเห็นแย้งเห็นว่า จำเลยทั้ง 9 ราย มีส่วนร่วมรู้เห็นการกระทำผิดด้วย ความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญานั้นจะอยู่ในสำนวนคดีและหากอัยการยื่นอุทธรณ์ความเห็นแย้งดังกล่าวก็จะอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ด้วย 



 



#ฉ้อโกงประชาชน



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X