น้ำมันลด ตลาดกังวลดอกเบี้ยขาขึ้น-สต็อกน้ำมันสหรัฐฯพุ่งขึ้น

15 มิถุนายน 2566, 07:16น.


          ตลาดน้ำมัน กังวลประเด็นหลักสองเรื่อง ทำให้การซื้อขายปิดตลาดเมื่อคืนนี้(14 มิ.ย.66) ปรับตัวลดลง



-ผลประชุมคณะกรรมการการธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม อยู่ที่ร้อยละ 5.00-5.25 แต่คาดการณ์ว่า ในการประชุมครั้งต่อไปอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Group กล่าวว่า ตลาดวิตกกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันชะลอตัวลง นอกจากนี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า จะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงน้ำมันดิบ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ



-ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ(EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 460,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล



-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.ค.66 ปิดตลาดลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนส.ค.66 ลดลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

           ขณะที่ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศคงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 66 พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของเงินเฟ้อและภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โอเปก คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 66 จะเพิ่มขึ้น 2.35 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 2.4% ซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วที่ระดับ 2.33 ล้านบาร์เรล/วัน



 



#น้ำมันโลก



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X