บีบีซีรายงานว่า นายเดวิด เมลเลน ประธานสภาเทศบาลเมืองนอตทิงแฮมทางภาคตะวันออกของอังกฤษ และส.ส.อีก 3 คนจากเมืองนอตทิงแฮม กล่าวว่าประชาชนในเมืองนอตทิงแฮมต่างรู้สึกเศร้าสลดใจ และเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตหลังเกิดเหตุรุนแรงหลายจุดในย่านใจกลางเมือง รวมถึงที่บริเวณถนนอิลเคสตัน (Ilkeston)เมื่อเช้ามืดของวานนี้ ระหว่างเวลา 04.00-05.30น. มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แม้ตำรวจไม่เปิดเผยชื่อ แต่ครอบครัวและเพื่อนๆ เปิดเผยชื่อผู้ตาย คือ นายบาร์นาบี เว็บเบอร์ อายุ 19 ปี และน.ส.เกรซ กุมาร หรือ เกรซ โอมัลลีย์-กุมาร(Grace O'Malley-Kumar)ชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียวัย 19 ปี 2 นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมืองนอตทิงแฮม
ครอบครัวของนายเว็บเบอร์ และโรงเรียนเมืองทอนตัน มณฑลซัมเมอร์เซต (Somerset)ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษซึ่งนายเว็บเบอร์เคยเป็นศิษย์เก่าระบุในแถลงการณ์ แสดงความเสียใจกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น สำหรับนายเว็บเบอร์อาศัยอยู่ในเมืองทอนตัน เป็นนักกีฬาคริกเก็ตสมัครเล่น ขณะที่น.ส.กุมาร เป็นนักกีฬาฮอกกี้ เคยเล่นกีฬาฮอกกี้ทีมชาติอังกฤษประเภทหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีและรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศอังกฤษแสดงความเสียใจกับครอบครัวและเพื่อนๆต่อการเสียชีวิตของเธอเช่นกัน
สำหรับผู้ตายคนที่ 3 ล่าสุด นายรอส มิดเดิลตัน ครูใหญ่ของโรงเรียนประถมศึกษา ฮันทิงดอน แอนด์ วอร์ริงตัน อะคาเดมี (Huntingdon and Warrington Academy)ทวีตข้อความ แสดงความเสียใจกับนายเอียน โคตส์ อายุ 60 ปีเศษ เป็นภารโรงของโรงเรียน ซึ่งถูกคนร้ายใช้มีดแทงเสียชีวิตที่ถนนมักดาลา(Magdala)ในคืนวันเกิดเหตุ
ตำรวจ เชื่อว่า ผู้ตายคนที่ 3 เป็นเจ้าของรถตู้ ซึ่งถูกคนร้ายเป็นชายวัย 31 ปี ชิงรถ ก่อนแทงเจ้าของรถเสียชีวิตและนำรถไปก่อเหตุรวมถึงขับรถพุ่งชนคนอื่นๆที่ป้ายรถเมล์ในบริเวณถนนมิลตัน (Milton Street)ในย่านใจกลางเมืองเมื่อเวลา 05.30 น.ของวานนี้ มีผู้บาดเจ็บ 3 คน ในจำนวนนี้ 1 คนอาการสาหัส ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนอีก 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อย
จากนั้นไม่นาน ตำรวจสามารถสกัดและหยุดรถของคนร้ายได้ที่บริเวณถนนเมเปิ้ลส์ (Maples Street) ตำรวจใช้ปืนไฟฟ้าช็อตคนร้ายก่อนเข้าจับกุม เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งตำรวจระบุว่า ยังไม่รู้ถึงเหตุจูงใจของคนร้ายซึ่งไม่ใช่ชาวอังกฤษ มีพื้นเพมาจากตะวันตกของทวีปแอฟริกา เคยมีประวัติการรักษาสุขภาพจิต ไม่มีประวัติทางคดีอาญาและอาศัยอยู่ในอังกฤษมาหลายปีแล้ว
#ป่วนเมืองในอังกฤษ