หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติจัดปาฐกถาพิเศษหัวข้อการกำหนดอนาคตตนเอง และให้มีการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราช รัฐปาตานี หรือ รัฐปัตตานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 ว่า ให้ฝ่ายกฎหมายเขาดำเนินการ และฝ่ายมั่นคงได้ติดตามในเรื่องนี้อยู่แล้ว
สิ่งสำคัญที่สุด คือไม่อยากให้สถานการณ์กลับไปสู่ที่เดิม สถานการณ์ไม่สงบ เกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ ความมุ่งหมายของเรา คือรักษาสถานการณ์นี้เอาไว้ให้ได้ ทั้งการพูดคุยที่ได้มีคณะพูดคุยสันติสุข ซึ่งเป็นกรอบของทั้งรัฐบาลประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้าน แต่ปัญหาในตอนนี้คือการจัดตั้งรัฐบาลต้องให้สมบูรณ์แล้วเสร็จ ไม่ว่าใครจะเป็น ซึ่งสิ่งที่เราทำมาหลายปี ขอให้เกิดความเรียบร้อยเน้นเรื่องการพัฒนา รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งการพูดคุยต่างๆ เป็นการพูดคุยสันติสุข ไม่ใช่เป็นการเจรจาสันติภาพ เนื่องจากเราไม่ได้รบกัน ขอให้ใช้คำให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันนี้ ได้รับทราบตามมติของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 2/2566 โดยเห็นชอบแผนปฏิบัติการปรับลดพื้นที่การประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ห้วงปี 2566 - 2570 (ฉบับแก้ไข) ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พร้อมให้ความเห็นชอบ การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยกเว้น อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส, อ.ยะหริ่ง อ.มายอ อ.ไม้แก่น และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และ อ.เบตง อ.กาบัง จ.ยะลา) ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2566 และสิ้นสุดในวันที่ 19 กันยายน 2566 เป็นครั้งที่ 72 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นการป้องกัน ระงับ ยับยั้งเหตุการณ์ในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาความสงบ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ต่อไปด้วย
ส่วนที่ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกรณี กิจกรรมเปิดตัวขบวนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 2 หลังการประชุม พล.ท.ศานติ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ จัดปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การกำหนดอนาคตตนเอง” เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้ตรวจสอบทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเปิดประชุมสัมมนาฯ และเชื่อมโยงถึงใครแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งสอบถามเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายทุกส่วนเรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมในวันนี้ (13 มิ.ย.66) ได้มีความคิดเห็นตรงกันว่า มีแนวโน้มจะหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมาย พร้อมกำชับและมอบหมาย ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการหาพยานหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างรัดกุม และรอบคอบ ตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้ความเป็นธรรมภายใต้หลักของความยุติธรรม ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่และในประเทศไทยได้รับทราบว่าส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมยึดกฎกติกาของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ยืนยัน พร้อมดำเนินการตามกฏหมายอย่างรัดกุมที่สุด
#ปัญหาชายแดนใต้