กกต.สั่งรวบรวมข้อมูล‘พิธา’ ถือหุ้น ไอทีวี เข้าข่ายผิดมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่

06 มิถุนายน 2566, 20:18น.


          กรณีที่สำนักงานกกต. รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องขอให้ตรวจสอบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)และมาตรา42(3) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เนื่องจากถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน)หรือไม่



          ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันนี้ได้มีการพิจารณา โดยสำนักงานฯ เสนอว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติส.ส. เนื่องจาก นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ซึ่งพ้นระยะเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครส.ส. ตามมาตรา 51 ประกอบมาตรา 60 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่กำหนดว่า ต้องยื่นภายใน 7 วัน นับแต่กกต.ประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง จึงต้องเสนอกกต.ให้มีคำสั่งเป็นความปรากฏต่อ กกต.ว่านายพิธา มีลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครรับเลือกตั้ง และการยินยอมให้พรรคส่งชื่อตนเองเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลลำดับที่ 1 รวมถึงยอมให้เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังคงลงสมัครรับเลือกตั้งตาม มาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. หรือไม่



          ทั้งนี้ ให้พนักงานสืบสวนไต่สวนของสำนักงานกกต.เป็นผู้ดำเนินการสืบสวนไต่สวน ตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่งก็จะนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการไต่สวน ที่ประชุมกกต. ยังเห็นว่าสำนักงานกกต. ยังเสนอมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน เช่น คำร้องมีการร้องในประเด็นใดบ้าง หลักฐานเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างไร จึงให้ไปดำเนินการมาให้ครบถ้วนและเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาใหม่โดยเร็วอีกครั้ง



 



#เลือกตั้ง66



#ผิดมาตรา151



 



 

ข่าวทั้งหมด

X