องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) หน่วยงานของสหประชาชาติ รายงานว่า ชาวอัฟกันมากกว่า 256,000 คน เดินทางออกจากอิหร่านในเดือนมิถุนายน (2568) เพียงเดือนเดียว ตามที่ทางการอิหร่านออกประกาศให้ชาวอัฟกันที่ไม่มีเอกสารทั้งหมดออกจากประเทศภายในวันที่ 6 กรกฎาคม
จำนวนผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันในอิหร่านซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่กลุ่มตอลิบานกลับมาควบคุมอัฟกานิสถานอีกครั้งในปี 2564 หลายคนอาศัยอยู่ในอิหร่านโดยไม่มีสถานะทางกฎหมายทำให้เกิดความรู้สึกต่อต้าน และมีการเลือกปฏิบัติอย่างเป็นระบบ
ตามรายงานขององค์การ IOM ระบุว่า ชาวอัฟกันมากกว่า 700,000 คนเดินทางออกจากอิหร่านตั้งแต่เดือนมกราคมของปีนี้ แต่ประมาณร้อยละ 70 ถูกส่งกลับโดยการบังคับ สื่อในอิหร่านรายงานเพิ่มเติมว่าในระหว่างที่มีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างโจมตีกันทุกวัน รัฐบาลอิหร่านยังมีการจับกุมผู้อพยพชาวอัฟกันหลายคนซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นสายลับให้กับอิสราเอล
ผู้อพยพชาวอัฟกันไม่มีสิทธิ์ได้รับสัญชาติอิหร่าน แม้ว่าจะเกิดในประเทศก็ตาม ไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคาร ซื้อซิมการ์ด หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่บางแห่งได้ มีข้อจำกัดในการจ้างงานเฉพาะงานหนักที่มีค่าจ้างต่ำ
นาย อาราฟัต จามาล ผู้ประสานงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติในอัฟกานิสถาน กล่าวด้วยว่า ในขณะเดียวกันปากีสถานยังเร่งขับไล่ชาวอัฟกันที่ไม่มีเอกสารกลับประเทศโดยระบุว่าไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป ทำให้ผู้ที่เดินกลับมาจากอิหร่านและปากีสถานในปีนี้มีจำนวนเกินกว่าหนึ่งล้านคน ซึ่งเขากล่าวขอบคุณทั้ง 2 ประเทศที่ให้ที่พักพิงแก่ชาวอัฟกันหลายล้านคนในช่วงเวลาหลายทศวรรษที่เกิดความไม่มั่นคง แต่ก็เรียกร้องให้มีการร่วมกันหาทางออกให้กับวิกฤตนี้ เนื่องจากผู้ที่เดินทางกลับมามีจำนวนมากเกินไป
...
#ชาวอัฟกัน
#อิหร่าน
#สหประชาชาติ