พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปผลการดำเนินคดีเด็กชายวัย 8 เดือน สูญหายในพื้นที่ สภ.บางหลวง จ.นครปฐม คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 เวลาประมาณ 08.30 น. ได้มี น.ส.นิ่ม อายุ 17 ปี และ นายพุด อายุ 19 ปี สองสามีภรรยา มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง จ.นครปฐม ว่า ลูกชายที่ชื่อ “น้องต่อ” อายุ 8 เดือน หายตัวออกจากบ้านไป
หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.บางหลวง ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และออกค้นหาตัวน้องต่อ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ จากการตรวจสอบได้พบข้อสงสัยมากมาย จึงได้รายงานผลต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จนมีคำสั่งให้ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม มาร่วมสืบสวนสอบสวนด้วย โดยให้ความสนใจในทุกประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ของตัวพ่อแม่เด็ก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง เช่น การตรวจสอบโถส้วมซึ่งพบรอยปูนใหม่ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ , ตรวจสอบบริเวณภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบหมอนที่มีคราบเลือด นอกจากนี้ยังกำหนดพื้นที่ค้นหาเป็นระยะไข่แดง-ไข่ขาว รวมเส้นผ่าศูนย์กลางระยะประมาณ 10 กม. แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ รวมทั้งยังนำตัวพยานและผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำมากถึง 100 ปาก เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ที่อาจพบตัวน้องต่อได้ แต่ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66 น.ส.นิ่ม ได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อุ้มน้องต่อแล้วไม่ได้ระมัดระวัง เป็นเหตุให้น้องต่อ ร่วงกระแทกพื้นจนเสียชีวิต จึงได้นำร่างของน้องต่อไปทิ้งที่บริเวณแม่น้ำท่าจีน เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบภายในแม่น้ำท่าจีนและขุดลอกแม่น้ำเป็นระยะทางมากกว่า 10 กม. แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.นิ่ม และนายพุด รวมทั้งผู้ต้องสงสัยไปตรวจเปรียบเทียบพบว่า ดีเอ็นเอของนายพุดไม่ตรงกับน้องต่อ จึงได้สืบสวนเพิ่มเติมจนพบข้อเท็จจริงว่า นายพุด ได้พา น.ส.นิ่ม ซึ่งเป็นภรรยา ไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยมีผู้ซื้อบริการจำนวน 1 ราย ได้แก่ นายณัฐวุฒิ อายุ 32 ปี
จากผลการสืบสวนทั้งหมดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 4 ราย ประกอบด้วย
1. น.ส.นิ่ม อายุ 17 ปี ดำเนินคดีฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,กระทำใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรเสร็จสิ้น และรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน
2. นายพุด อายุ 19 ปี ดำเนินคดีฐาน เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุ 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ล่อไป ชักพาฯ
3.นายสุรชัย อายุ 55 ปี ดำเนินคดีฐาน กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
4.นายณัฐวุฒิ อายุ 32 ปี ดำเนินคดีฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วยเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการค้นหาตัวน้องต่อนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งจากการให้การที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง รวมทั้งการพิสูจน์ข้อสงสัยทั้งหมดให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และการตรวจสอบพื้นที่ในวงกว้างทั้งหมดเพื่อค้นหาร่องรอยที่อาจทำให้พบตัวน้องต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามค้นหาและสืบสวนติดตามอย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งยังได้สืบสวนขยายผลจับกุมในข้อเท็จจริงที่พบเกี่ยวกับการนำเอาแม่น้องต่อไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ จึงได้สั่งดำเนินคดีตามกฎหมายตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
#น้องต่อ
#เด็กวัย8เดือนหายตัว