เกาะติด สัญญาณความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน ในน่านฟ้า-ท้องน้ำ จุดชนวนจากบอลลูน

06 กุมภาพันธ์ 2566, 06:59น.


          ความตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯกับจีน จากชนวนเรื่องของบอลลูน หลังจากที่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า เมื่อวันเสาร์ 4 ก.พ.66 เวลาประมาณ 14.39 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 02.39 น.ตามเวลาประเทศไทย เครื่องบินขับไล่ F-22 ของสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จากอากาศสู่อากาศ เอไอเอ็ม-9เอ็กซ์ ทำลายบอลลูนยักษ์ของจีน ขณะที่ลอยอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ



         ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในถ้อยแถลงตำหนิและแสดงความไม่พอใจการตัดสินใจของสหรัฐฯ พร้อมเสริมว่าจีนจะ ‘สงวนสิทธิ์ในการตอบสนองที่จำเป็นเพิ่มเติม’ โดยไม่ต้องให้รายละเอียดเพิ่มเติม ล่าสุด สั่งปลด นายจ้วง กั๋วไท่ หัวหน้าสำนักงานพยากรณ์อากาศของจีน



        The Japantimes ระบุว่า สถานการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนจะมั่นคงหรือไม่ ท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามเย็นครั้งใหม่  



        สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นักวิเคราะห์จากปักกิ่งและฮ่องกง มองว่า ความเคลื่อนไหวของจีนที่จะตอบโต้สหรัฐฯ จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ให้ความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายพยายามแก้ไข แย่ลงกว่าเดิม



        นักวิเคราะห์และนักการทูตระดับภูมิภาค กำลังจับตาดูการตอบสนองของจีนอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน อยู่ระหว่างตรวจสอบสัญญาณของความตึงเครียดทั้งทางทะเลและทางอากาศในภูมิภาคเพิ่มเติมด้วย



         ในช่วงที่ติดตามเรื่องของบอลลูน เมื่อวันที่ 3 ก.พ.65 AFP รายงานอ้างแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯว่า การเยือนฟิลิปปินส์ของนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและนายคาร์ลิโต กัลเวซ รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ ในวันนี้ ได้บรรลุข้อตกลงให้กองทัพเรือของทั้งสองประเทศกลับมา เริ่มลาดตระเวนร่วมทางเรือในทะเลจีนใต้ เพื่อยับยั้งการขยายอิทธิพลทางทหารของจีนในทะเลจีนใต้ และช่วยแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงให้กับฟิลิปปินส์ ท่าทีที่แข็งกร้าวของจีนต่อไต้หวันและการที่จีนเข้าไปก่อตั้งฐานทัพในพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้เป็นปัจจัยใหม่ที่ทำให้สหรัฐฯและฟิลิปปินส์กลับมากระชับความเป็นหุ้นส่วนทางกลาโหมให้เข้มแข็งอีกครั้ง ที่ผ่านมา จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนืออาณาเขตส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้ทับซ้อนอาณาเขตของเพื่อนบ้านรวมถึงฟิลิปปินส์



        ขณะที่อีกด้าน มองว่า ทั้งสหรัฐฯและจีน น่าจะหาทางเพื่อจะกลับมาฟื้นความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น เนื่องจาก หากไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนจีน ตามที่กำหนดไว้ เนื่องจาก การประชุมสุดยอดเมื่อเดือนพ.ย.65 ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่ตกลงว่าจะให้ตัวแทนสหรัฐฯเดินทางเยือนจีน เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ และเป็นการเดินทางเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากฝ่ายบริหารของนายไบเดน กังวลเรื่องความตึงเครียดที่ลุกลามไปสู่ความขัดแย้ง และประธานาธิบดีสี เร่งฟื้นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก หลังจากชะลอตัวอย่างรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19



         ด้านสหรัฐฯ ทำเนียบขาว อาจเผชิญกระแสการตั้งคำถามจากพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสว่านายไบเดน ไม่ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการจัดการกับบอลลูน นายไมค์ โรเจอร์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการบริการด้านอาวุธของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในแถลงการณ์ว่า เป็นที่ชัดเจนว่า ทีมฝ่ายบริหารของนายไบเดน หวังที่จะปกปิดความล้มเหลวด้านความมั่นคง



        เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯระบุรายละเอียดของบอลลูน



-28 ม.ค.66 พบบอลลูน ลอยเข้าสู่น่านฟ้าของสหรัฐฯ



-30 ม.ค.66 ลอยเคลื่อนเข้าสู่น่านฟ้าของแคนาดา



-31 ม.ค.66 ลอยกลับเข้าสู่น่านฟ้าของสหรัฐฯทางตอนเหนือของรัฐไอดาโฮ



-4 ม.ค.66 ยิงบอลลูนตก



        ขณะเดียวกัน มีรายงานจากเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศโคลอมเบีย ว่าตรวจพบวัตถุ “ที่มีลักษณะคล้ายบอลลูน” ในน่านฟ้าเมื่อวันที่ 3 กพ.66 ที่ความสูงเหนือระดับ 55,000 ฟุต ทางภาคเหนือของประเทศ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเฉลี่ย 25 นอตและกำลังมีการประสานงานกับประเทศและสถาบันต่าง ๆ เพื่อระบุที่มาของบอลลูน ซึ่งขณะนี้ออกจากน่านฟ้าของโคลอมเบียแล้ว พร้อมระบุว่า บอลลูนนี้ ไม่ได้แสดงถึงอันตรายในด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศหรือความปลอดภัยทางอากาศ



 



#บอลลูน



CR:Reuters,The Japantimes,AFP



 



 

ข่าวทั้งหมด

X