ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (2 ก.พ. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯว่า สถานการณ์มาจาก 2 ส่วน คือ สภาพอากาศปิด และลมต่ำมาก ทำให้ฝุ่นหมุนเวียนในกรุงเทพฯ ไม่สามารถระบายออกได้ โดยต้นกำเนิดฝุ่นมาจากรถยนต์และการเผาชีวมวลรอบนอก ซึ่งพบจุด Hot Spot ค่อนข้างสูงราว 1,200 จุดในเขตประเทศไทย ประกอบกับทิศทางลมเปลี่ยน จากลมตะวันออกเฉียงเหนือมาเป็นลมตะวันออก ทำให้การเผาไหม้ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา พัดเข้ามาในประเทศไทย ทำให้หลายจังหวัดมีค่าฝุ่นสูง
ภาพจาก@RPOBB
นายชัชชาติ ระบุว่า สิ่งที่ดีคือการพยากรณ์สถานการณ์ฝุ่นของเราแม่นยำขึ้น คาดการณ์ได้ตั้งแต่ 3 วันก่อนแล้ว ว่าจะมีฝุ่นรุนแรง จึงประกาศเตือนล่วงหน้ามาตลอด มีระบบเตือนภัยในโรงเรียนที่เข้มข้นขึ้น มีระบบ Line Alert สำหรับเตือนภัย ระยะสั้น เพื่อให้ประชาชนดูแลตัวเอง สวมหน้ากากเมื่อออกไปในพื้นที่โล่งแจ้ง
นอกจากนี้ ยังมีแผนฝุ่นแห่งชาติ เป็นวาระแห่งชาติ หากค่าฝุ่นสูงเกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ต่อเนื่องกัน 3 วัน ต้องมีมาตรการต่างๆ ซึ่ง กทม.พยากรณ์ว่า วันที่ 1-3 ก.พ. 66 จะมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน จึงสั่งให้หน่วยงานในสังกัด Work From Home ทันที พร้อมสั่งการไปยังสำนักงานเขต ขอความร่วมมือบริษัทเอกชน ออกมาตรการ Work From Home ส่วนราชการได้แจ้ง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว
สำหรับโรงเรียนในสังกัด กทม.ตัดสินใจไม่ปิด เพราะเชื่อว่าอาจสร้างภาระให้พ่อแม่ บางครอบครัวที่ไม่มีใครดูลูก ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งอย่างน้อยมาโรงเรียนก็อยู่ในห้องปิด ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ให้ออกไปวิ่งเล่น โดยต้องเน้นย้ำไปทางโรงเรียน ห้ามนักเรียนทำกิจกรรมในพื้นที่โล่งแจ้ง มีหน้ากากอนามัยให้นักเรียน หากเด็กคนใดมาเรียนไม่ได้ ก็ให้หยุดใน 2 วันนี้ได้ ซึ่งผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต มีอำนาจประกาศเป็นเขตเดือดร้อนรำคาญ ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมการเผาได้ พร้อมกับขอความร่วมมือไปยังประชาชน วัด และศาลเจ้าต่างๆ เรื่องการจุดธูป เทียน และเผากระดาษเงินกระดาษทอง รวมทั้งกิจกรรมก่อสร้างที่ กทม.เป็นเจ้าของโครงการด้วย
ผู้ว่า ฯ กทม.แนะประชาชน ช่วงนี้ควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง เพราะหากต้องใส่หน้ากากอนามัยออกกำลังกาย ก็จะยากในการสูดหายใจ อีกทั้งหน้ากาก N95 ไม่ได้จำเป็นมาก เพราะหายใจยาก ราคาแพง อาจจะใส่หน้ากากอนามัยทั่วไป ก็สามารถกันฝุ่นได้แล้ว 60% หากใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น อาจกันได้ถึง 80% ซึ่งนายชัชชาติเองก็บอกว่า ตนเองออกกำลังกายอยู่ในห้อง เช่น วิดพื้น วิ่งจ๊อกกิ้ง
#ฝุ่นละออง
#ชัชชาติสิทธิพันธุ์