สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างนางเอลเลน เซนท์เนอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของสหรัฐฯว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง หลังการประชุมนโยบายการเงิน 2 วันสิ้นสุดในวันนี้ คาดว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะแถลงเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ในเวลา 14.00น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ชี้แจงเหตุผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการประชุม ขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อๆไปตลอดปีนี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะขยับขึ้นมาอยู่ระหว่างร้อยละ 4.5-4.75 เท่ากับจะผ่อนเวลาในการขึ้นดอกเบี้ย หลังจากปรับเมื่อเดือนธันวาคมเมื่อปีก่อนร้อยละ 0.50 ต่อเนื่องจากปรับขึ้นร้อยละ 0.75 มา 4 ครั้ง แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลใหม่ๆจากการประชุมของเฟดในครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ของเฟดย้ำมาตลอดว่า นโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะยังคงอยู่ในอัตราที่สูงต่อเนื่องไปอีกสักพักใหญ่ๆ
ทั้งนี้ รายงานทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ ชี้ว่า แรงกดดันด้านราคาเริ่มลดลง และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งสัญญาณต่างๆเหล่านี้ชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯตอบสนองต่อนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องการจะควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่ตลาดแรงงานที่ยังคงมีภาวะตึงตัวอย่างต่อเนื่อง อาจจะเพิ่มแรงกดดันให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำลงกว่าครั้งก่อนๆ เช่น ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.25 ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
#สหรัฐฯ
#เฟด
#นโยบายการเงิน