ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาเพื่อควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ แม้ว่า สนธิสัญญา New START เป็นข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ฉบับสุดท้ายระหว่าง 2 มหาอำนาจในยุคหลังสงครามเย็น และยังคงเป็นข้อตกลงที่มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นสนธิสัญญาฉบับเดียวที่ยังมีผลผูกพันตามกฎหมายมาจนถึงปัจจุบัน
นายเปสคอฟ ยังกล่าวหาสหรัฐฯละเมิดหลักการของสนธิสัญญา เช่น การติดตั้งขีปนาวุธต่างๆขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ดำเนินการติดตั้งในลักษณะที่กระทบความมั่นคงของรัสเซีย ถือเป็นการสร้างเงื่อนไขที่เป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของรัสเซีย พร้อมทั้งกล่าวหาสหรัฐฯทำลายหลักการทางกฎหมายในประเด็นเรื่องการควบคุมอาวุธและความมั่นคง
นายเปสคอฟ กล่าวว่า รัสเซียมองปฏิบัติการทางทหารของนาโต กระทบความมั่นคงของรัสเซีย รวมทั้งระบบรวบรวมข่าวกรองทั้งหมดของนาโต เช่น เครื่องบินสอดแนมและดาวเทียมสอดแนม ซึ่งทำงานทุกวัน วันละ 24 ชั่วโมง เพื่อประโยชน์ของรัฐบาลยูเครน ถือเป็นการสร้างเงื่อนไขที่มุ่งร้ายต่อความมั่นคงของรัสเซีย ซึ่งเป็นเรื่องที่รัสเซียจะนิ่งเฉยไม่ได้
นายเปสคอฟ แสดงความเห็นเรื่องนี้ หลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวหารัสเซียละเมิดข้อผูกพันภายใต้สนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ฉบับใหม่ หรือ New START ทั้งนี้ สนธิสัญญา New START เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2554 ต่อมามีการต่ออายุไปอีก 5 ปีเมื่อปี 2564 กำหนดให้ทั้งสหรัฐฯ และรัสเซียติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ได้ไม่เกินประเทศละ 1,550 หัวรบ รวมถึงจำกัดจำนวนขีปนาวุธภาคพื้นดิน ขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดที่จะใช้หัวรบนิวเคลียร์เหล่านี้ด้วย
ปัจจุบัน สหรัฐฯ และรัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์รวมกันคิดเป็นร้อยละ 90 ของอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลก
#รัสเซีย
#สนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์