หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการคำนวณจำนวนประชากรต่อ ส.ส.ที่รวมคนไม่มีสัญชาติไทยไปด้วย นายปกรณ์ มหรรณพ และนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง รวมทั้งนายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงข่าว ระบุว่า การประกาศจำนวน ส.ส.แต่ละจังหวัดที่พึงมี คิดจากข้อมูลการประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ที่มีการประกาศปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งการประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จนถึงปี 2557 จะประกาศจำนวนราษฎรรวม ต่อมาปี 2558 เป็นปีแรกที่สำนักทะเบียนกลาง ประกาศแยกชายหญิงของคนที่มีสัญชาติไทย และคนที่ไม่มีสัญชาติไทย และปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งการคิดจำนวนราษฎรต้องคิดยอดรวมอย่างเดียว
แม้จะเคยมีปัญหามาแล้วเมื่อปี 2557 ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่จะยกฐานะเป็นเทศบาลซึ่งมีการโต้แย้งว่า ควรจะรวมผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยเป็นราษฎรรวมหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นสอดคล้องกับ กกต. ว่าการคิดจำนวนราษฎรนั้น ต้องคิดรวมทั้งหมดของบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยชอบด้วยกฎหมาย การแยกคนที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทย ต้องคำนึงถึงบุคคลที่มีสิทธิใช้บริการ และผู้เสียภาษีอากรในการคิดค่าธรรมเนียม คือผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยอาจจะได้รับแตกต่างจากผู้ที่มีสัญชาติไทย แต่การคิดจำนวนราษฎรต้องคิดรวมทั้งหมด ไม่ว่าผู้นั้นจะมีสัญชาติไทยหรือไม่ หรือมีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ เพราะคนที่มีสัญชาติไทยไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคน นับเป็นหลักการทำงานที่สอดคล้องต้องกันและทำมาโดยตลอด ข้อมูลที่นำเสนอคิดว่า ทั้งสองปัญหานี้มีความกระจ่างพอสมควร
ส่วนที่ กกต.ขอเวลารัฐบาลในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งรวม 45 วัน นั้นกกต.ได้ประสานและชี้แจงทำความเข้าใจว่า เมื่อกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้แล้ว จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ ทั้งการให้ กกต.จังหวัด แบ่งเขตเลือกตั้งภายในเวลา 3 วัน การเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและพรรคการเมืองอีก 10 วัน เมื่อครบระยะเวลา กกต.จังหวัด จะต้องพิจารณาเพื่อทำความเห็นว่ารูปแบบใดเหมาะสม อีก 3 วัน รวมเป็นเวลา 16 วัน จากนั้นจะส่งให้ กกต.พิจารณา ซึ่ง กกต.กลาง จะรีบพิจารณาโดยตั้งเป้าว่าดำเนินการทั้ง 400 เขตให้เสร็จภายในไม่เกิน 5 วัน โดยจะใช้ระยะเวลาพิจารณาเฉลี่ยวันละ 100 เขต สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ก่อให้เกิดปัญหา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสะดวกสบาย มีการเตรียมและตั้งเป้าหมายการทำงานไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงพรรคการเมืองที่ต้องมีเวลาคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จึงจำเป็นต้องเผื่อเวลา
โดยในพุธที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมร่วมกับพรรคการเมือง เพื่อหารือเรื่องค่าใช้จ่ายว่า จำนวนที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ และวิธีการทำไพรมารีโหวต เพื่อให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครได้อย่างถูกต้อง
สำหรับกรอบระยะเวลาการทำงานของ กกต.ที่จะพิจารณาเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งมีดังนี้
-ในวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ กกต.จังหวัด จะเร่งแบ่งเขตให้แล้วเสร็จใน 3 รูปแบบ
-วันที่ 4-13 กุมภาพันธ์ จะปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชน
-14-16 กุมภาพันธ์ กกต.จังหวัดจะสรุปและทำความเห็น เลือกรูปแบบเขตเลือกตั้งที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอ กกต.กลาง และวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ กกต.กลางจะพิจารณารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าใน 1 วันจะพิจารณาไม่ต่ำกว่า 100 เขต
#เลือกตั้งสส
#กกต
CR:FB คณะกรรมการการเลือกตั้ง