นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการรัฐสภา กรณีที่มีรายงานว่า นาย โชทาโร คิชิดะ อายุ 32 ปีลูกชายของเขา ซึ่งเป็นเลขานุการของเขาด้วยนั้น เดินทางไปท่องเที่ยวส่วนตัวเมื่อเดือนมกราคม โดยใช้เงินภาษี รวมถึงการซื้อของที่ระลึกกลับมาฝากคณะรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายโชทาโรเดินทางไปปฏิบัติราชการ และใช้เงินส่วนตัวซื้อของฝาก
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีคิชิดะ มีคะแนนนิยมอยู่ในระดับต่ำที่ระดับ 33.1 จุด เนื่องจากนโยบายขึ้นภาษีเพื่อเป็นทุนในการขยายงบประมาณด้านกลาโหม โดยไม่ทบทวนการตัดลดใช้จ่ายสาธารณะที่ไม่จำเป็น ขณะที่ ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีเอง ยังถูกโจมตีว่านำลูกชายที่เป็นอดีตพนักงานของบริษัทการค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นมาเป็นเลขานุการของเขา ซึ่งฝ่ายค้านระบุว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ
เมื่อต้นเดือนมกราคม (2566) นายโชทาโร ติดตามบิดาเดินทางไป 5 ประเทศในกลุ่มจี7 คือ สหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี และสหรัฐอเมริกา เพื่อเตรียมพร้อมการประชุมสุดยอดจี7 ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ แต่มีรายงานของสื่อญี่ปุ่นระบุว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีคิชิดะกำลังประชุมหารือกับผู้นำประเทศต่าง ๆ ลูกชายกลับใช้รถของสถานทูตญี่ปุ่นไปท่องเที่ยว และไปช้อปปิ้งในปารีส ลอนดอน และออตตาวา
ต่อมารัฐบาลเปิดเผยว่า ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้รถของสถานทูต และนายโชทาโร ถ่ายรูปเพื่อให้พ่อของเขานำไปเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในรายงานประจำปี และซื้อของขวัญด้วยเงินส่วนตัวในนามของนายกรัฐมนตรี เพื่อมามอบให้กับคณะรัฐมนตรี และเขาไม่ได้เข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวใด ๆ
นาย ยูอิจิโระ ทามากิ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน กล่าวว่า ควรยกเลิกการปฏิบัติของนายกรัฐมนตรีและสมาชิกคณะรัฐมนตรีในการแลกเปลี่ยนของขวัญหลังการเดินทางเยือนต่างประเทศ
….
#ลูกชายนายกญี่ปุ่น
ข่าวทั้งหมด