บีบีซี รายงานอ้างหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ของอังกฤษว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯได้แจ้งให้บริษัทสหรัฐฯทราบว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะหยุดออกใบอนุญาตให้กับบริษัทอเมริกันที่ส่งออกสินค้าเทคโนโลยีให้กับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี บริษัทเทคโนโลยีโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ตามนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ซึ่งต้องการจะคุมเข้มกฎระเบียบการส่งออกเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะรวมถึงการห้ามส่งออกเทคโนโลยีทุกชนิดไปยังประเทศจีน
โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯทำงานร่วมกับกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทบทวนนโยบายและกฎระเบียบการค้า พร้อมทั้งติดต่อสื่อสารกับกลุ่มที่มีส่วนได้เสียจากนอกองค์กรอย่างสม่ำเสมอ โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในประเด็นปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ หรือประเด็นต่างๆที่อยู่ระหว่างพิจารณา ยังไม่มีผลสรุปที่แน่นอน
ภายใต้ระเบียบการส่งออกของสหรัฐฯในปัจจุบัน บริษัทอเมริกันจะต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์ที่กำกับดูแลเรื่องการส่งออก หรือการถ่ายทอดเทคโนโลยีบางประเภท เนื่องจากสหรัฐฯ กังวลว่า เทคโนโลยีดังกล่าวอาจจะถูกนำไปใช้โดยกองทัพจีน แต่ในบางครั้งรัฐบาลออกใบอนุญาตให้กับบริษัทเอกชนบางรายของสหรัฐฯ เช่น อินเทล และ ควอลคอมม์ สามารถส่งออกสินค้าอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีรุ่น 5G ให้กับหัวเว่ย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวหา บริษัทหัวเว่ยว่า เป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และเป็นสายลับที่ทำงานให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งปกครองประเทศจีนในปัจจุบัน พร้อมขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ยในปี 2562 ที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาลจีนและบริษัทหัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหา ไม่มีมูลความจริง
ในปัจจุบัน สหรัฐฯและจีนยังคงมีความตึงเครียดทางการเมืองในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับไต้หวัน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชิปคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ของโลก ขณะเดียวกัน หลายฝ่าย คาดว่า การจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯกระทบการพัฒนาอุปกรณ์โทรคมนาคมความเร็วสูงรุ่น 5G และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)ของหัวเว่ยเช่นกัน
#สหรัฐฯ
#ห้ามบริษัทอเมริกันส่งออกเทคโนโลยีให้จีน
ข่าวทั้งหมด