นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ขอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเหตุระเบิดมัสยิดเมืองเปชาวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ หลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายขณะทำพิธีละหมาดเมื่อบ่ายวานนี้ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีตำรวจ 300-400 คนร่วมพิธีละหมาด โดยให้สอบสวนว่า คนร้าย เข้ามาร่วมพิธีละหมาดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างไร เนื่องจากมัสยิดนั้นตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจเมืองเปชาวาร์ ส่วนเรื่องตัวเลขผู้เสียชีวิต นายชาฟีอุลลาห์ ข่าน รองผู้กำกับตำรวจเมืองเปชาวาร์ ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 92 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 80 คนยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ก่อนหน้านี้ นายชารีฟ เดินทางไปยังเมืองเปชาวาร์ เพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บในโรงพยาบาล และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ประณามผู้ก่อเหตุว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม ระบุว่า ที่ผ่านมา คนทั่วประเทศต่างรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย ระบุว่า ผู้ก่อการร้ายหวังจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้าน โดยมุ่งทำร้ายตำรวจ ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของปากีสถาน นับเป็นหนึ่งในเหตุโจมตีที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ด้านกลุ่มตอลิบานของปากีสถานปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าแกนนำระดับบัญชาการรายหนึ่งอ้างว่า กลุ่มตอลิบานอยู่เบื้องหลัง ก่อนหน้านี้ กลุ่มตอลิบานของปากีสถาน หรือที่เรียกว่า กลุ่มเตห์รีค-อี-ตาลีบาน(TTP) ซึ่งแยกตัวมาจากกลุ่มตอลิบานที่ปกครองอัฟกานิสถานในปัจจุบัน ประกาศยุติการพักรบกับรัฐบาลปากีสถานในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
นับแต่นั้นมาเกิดเหตุรุนแรงมาหลายครั้งในปากีสถาน รวมถึงเหตุโจมตีสถานีตำรวจแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศในลักษณะเดียวกับเหตุโจมตีมัสยิดเมืองเปชาวาร์เมื่อวาน ทำให้รัฐบาลปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย คนร้ายเสียชีวิต 33 ราย
#ปากีสถาน
#เหตุโจมตีมัสยิด
ข่าวทั้งหมด