กลุ่มมัคคุเทศก์จากสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยปราบไกด์เถื่อนต่างชาติ เพื่อเตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์นี้
นายวิโรจน์ สินประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีเฟซบุ๊ก “หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว” โพสต์บทความกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันอ้างว่า ถูกตำรวจตั้งด่านรีดไถเงินจำนวน 27,000 บาท ซึ่งในโพสต์ดังกล่าว มีข้อความบางตอน ระบุว่า “ผู้เสียหายเล่าให้ไกด์ท้องถิ่นในไทยฟัง และไกด์แนะนำว่า หากเจอกรณีแบบนี้ ให้ยัดเงินติดสินบนไป 5,000 บาท หรือไม่ก็ขอเจรจาตกลงราคาไปเลย”
ซึ่งกรณีนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของมัคคุเทศก์ไทยอย่างมาก จึงอยากให้ตำรวจตรวจสอบว่า ไกด์คนดังกล่าว เป็นไกด์ที่ถูกกฎหมายหรือไม่ โดยให้สอบถามไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวไต้หวันว่าไกด์คนนี้เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากเป็นชาวต่างชาติแอบแฝงเข้ามาทำอาชีพโดยผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินตามกฎหมาย แต่หากเป็นไกด์ไทย ก็จะทำเรื่องเพิกถอนใบอนุญาต เพราะถือว่าทำผิดจรรยาบรรณมัคคุเทศก์ และทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นและใช้มัคคุเทศก์ที่ถูกกฎหมายในอนาคต
นายวิโรจน์ ระบุว่า ปัญหาไกด์เถื่อน มีมานานแล้วตั้งแต่ในช่วงทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไกด์เถื่อนต่างชาติลดน้อยลง แต่เกรงว่า การเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในรูปแบบของกรุ๊ปทัวร์อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ จะทำให้ไกด์เถื่อนต่างชาติกลับมามีเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง
ส่วนผลกระทบจากกระแสข่าวที่ตำรวจไปรีดเงินนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ยอมรับว่า เป็นกระแสข่าวในด้านลบ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยมากนัก เพราะยังมีมุมดีๆของประเทศไทย ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ภายในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศมากกว่า 20 ล้านคน
#ไกด์เถื่อน
#ดาราไต้หวันถูกตำรวจรีดเงิน
ข่าวทั้งหมด