บีบีซี รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ระบุในรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก(World Economic Outlook) ฉบับใหม่ประจำเดือนมกราคม 2566 คาดว่า เศรษฐกิจของอังกฤษ ในปีนี้ จะติดลบร้อยละ 0.6 แทนที่จะเติบโตร้อยละ 0.3 ดังเช่นการคาดการณ์ครั้งก่อน และจะเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือกลุ่มจี7(G7)ที่จะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบในปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจัยเรื่องค่าครองชีพแพงยังคงกระทบการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง กลุ่มG7 ประกอบด้วย สหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น แคนาดา ฝรั่งเศส และ อิตาลี
IMF ระบุว่า การคาดการณ์ใหม่ของ IMF สะท้อนถึงราคาพลังงานที่อยู่ในระดับที่สูงและภาวะการเงิน เช่น เงินเฟ้อสูง ในอังกฤษอยู่ที่ร้อยละ 10.5 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ IMF คาดการณ์ว่า จีดีพีของอังกฤษในปี 2567 จะเติบโตร้อยละ 0.9 เพิ่มจากการคาดการณ์ครั้งก่อน คือ ร้อยละ 0.6
จีดีพีเป็นตัวชี้วัดว่าเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นหรือแย่ลง มีแนวโน้มการเติบโตมากน้อยเพียงไร ทั้งเปรียบเทียบตัวเลขจีดีพีรายไตรมาส เทียบกับไตรมาสก่อนๆ เพื่อให้ทราบภาพรวมของเศรษฐกิจ หากจีดีพีของประเทศอ่อนแอจนติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน ชี้ว่าประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ บริษัทเอกชนมีรายได้ลดลง และตัวเลขคนว่างงานจะเพิ่มขึ้น
ด้านนายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว อังกฤษมีผลงานทางเศรษฐกิจในระดับที่ดีกว่าการคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์จากหลายองค์กร รวมถึง IMF
IMF คาดการณ์การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มG7
-เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะเติบโตร้อยละ 1.8
-เศรษฐกิจแคนาดา จะเติบโตร้อยละ 1.5
-เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตร้อยละ 1.4
-เศรษฐกิจฝรั่งเศส จะเติบโตร้อยละ 0.7
-เศรษฐกิจอิตาลี จะเติบโตร้อยละ 0.6
-เศรษฐกิจเยอรมนี จะเติบโตร้อยละ 0.1
การที่ธนาคารกลางทั่วโลก ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการสู้รบในยูเครนมีผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่การที่จีนเปิดประเทศ ยกเลิกนโยบายลดโรคเหลือศูนย์ จะปูทางให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเร็วขึ้น
#ไอเอ็มเอฟ
#เตือนอังกฤษเศรษฐกิจติดลบ