น้ำมันขยับขึ้น หลังสหรัฐฯ ระบุว่าอิสราเอลโจมตีอิหร่านด้วยโดรน

          นายสเตฟาโน กราซโซ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหารพอร์ตการลงทุน บริษัทเอ็ทวานท์เอ็ดจ์(8VantEdge)ในสิงคโปร์ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ราคาน้ำมันขยับขึ้นในตลาดเอเชียในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้ เนื่องจาก สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังเหตุโจมตีอิหร่านด้วยโดรน และทางการจีนประกาศเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าประเทศจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ จะส่งผลให้การใช้พลังงาน เช่น เชื้อเพลิง ในจีนเพิ่มขึ้น

         ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษขยับขึ้น 54 เซนต์หรือร้อยละ 0.6 อยู่ที่ 87.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 01.15 น.ของวันนี้ ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัส สหรัฐฯ อยู่ที่ 80.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่ม 54 เซนต์หรือร้อยละ 0.7

          ด้านเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสหรัฐฯกล่าวถึงเหตุโจมตีอิหร่านเมื่อคืนวันเสาร์ ระบุว่า ดูเหมือนอิสราเอลจะอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงงานผลิตกระสุนในเมืองอิสฟาฮาน ของอิหร่าน เบื้องต้นยังไม่มีใครทราบอย่างชัดเจนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นในอิหร่าน แต่เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อาจจะกระทบต่อการส่งออกของน้ำมันดิบจากภูมิภาคตะวันออกกลางสู่ตลาดโลก

          แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดว่า การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) และพันธมิตร รวมถึงรัสเซีย ที่เรียกรวมๆว่า กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+)จะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันดิบในปัจจุบัน

         เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สหรัฐฯและพันธมิตรในยุโรป ไม่พอใจกลุ่มโอเปกพลัส หลังจากปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนพฤศจิกายนจนถึงสิ้นปี 2566 แทนที่จะเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อทำให้ราคาเชื้อเพลิงลดลง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเร็วขึ้น ตามข้อเสนอแนะจากสหรัฐฯ ครั้งสุดท้ายที่กลุ่มโอเปกพลัส ประชุมกันคือ เดือนธันวาคมปีที่แล้ว และจะมีการประชุมแบบเจอหน้ากันในเดือนมิถุนายนนี้

          นอกจากนี้ มีปัจจัย ชี้ว่า รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น จากเรือบรรทุกน้ำมันที่ท่าเรือในแถบทะเลบอลติก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อ่อนตัวในสัปดาห์ก่อน

         ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีของจีนระบุเมื่อวันเสาร์ที่แล้วว่า จีนจะใช้นโยบายกระตุ้นการบริโภคให้ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว พร้อมทั้งเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากต่างแดน นอกจากนี้ ธุรกิจของจีนกลับมาให้บริการตามปกติในช่วงเทศกาลตรุษจีน นักวิเคราะห์จากบริษัทซิตี้ ระบุว่า ตัวเลขผู้โดยสารจีนที่เดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 ปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2562

#อิหร่าน

#โอเปก

#น้ำมันดิบ

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.js100.com/en/site/news/view/126200