กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.65 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 256,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.65
อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7%
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน โดยชะลอตัวจากระดับ 0.6% ในเดือนพ.ย.65 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%
เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค.65 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0%
นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และหากข้อมูลยังคงชี้ทิศทางดังกล่าว เฟดก็จะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมเดือนก.พ.66 การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานยังไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองที่ระบุว่า เฟดควรเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดระยะหนึ่งจนกว่าจะถึงปี 2567 เพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว คาดว่า ในปีนี้สหรัฐฯจะไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย และคาดว่าอัตราว่างงานจะแตะระดับ 4% ในช่วงปลายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ.66 ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีนี้ หลังสหรัฐฯเปิดเผยรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีภาคบริการ
FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 77.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.66 และให้น้ำหนักเพียง 22.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
#ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร
#สหรัฐฯ
CR:CNBC