ทำเนียบเครมลินแถลงว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ในยูเครนหยุดยิงในช่วงคริสต์มาสของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ เป็นเวลา 36 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 6 ม.ค.ตามเวลากรุงมอสโก ถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค.ชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งรวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในรัสเซียและยูเครน จะเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสในวันที่ 6-7 ม.ค.แตกต่างจากชาวคริสต์ทั่วไปที่จัดการฉลองในวันที่ 24-25 ธ.ค.นอกจากนั้น ผู้นำรัสเซียยังเรียกร้องให้กองทัพยูเครนประกาศหยุดยิงเช่นกัน เพื่อให้กำลังพลได้เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสอีฟ และวันคริสต์มาส
แต่ในมุมมองของยูเครนและชาติตะวันตกมีความเคลือบแคลงใจ ต่อคำสั่งของรัสเซียครั้งนี้ และมองว่า เป็นเพียงกลยุทธ์การพักรบเพื่อเสริมกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ ก่อนที่จะทำการโจมตีครั้งใหม่
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า รัสเซียกำลังใช้เทศกาลคริสต์มาสเป็นข้ออ้างเพื่อสกัดการรุกคืบของกำลังพลในแนวหน้าของเราในดอนบาส และเพื่อเพิ่มอาวุธยุทโธปกรณ์และเคลื่อนกำลังพลเข้าใกล้แนวของเรา
ด้านนายมิไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาของปธน.เซเลนสกี ปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของรัสเซีย โดยระบุว่าเป็นการตีสองหน้าของรัสเซีย นายโปโดลยัคระบุว่า รัสเซียจะต้องออกจากดินแดนที่ยึดครองในยูเครน ก่อนที่จะมีการหยุดยิงชั่วคราวใดๆจะเกิดขึ้นประการแรก ยูเครนไม่ได้ทำการโจมตีดินแดนของต่างชาติ และไม่ได้สังหารพลเรือน เหมือนกับที่รัสเซียได้กระทำ ประการที่สอง รัสเซียจะต้องออกจากดินแดนที่ยึดครอง ก่อนที่จะมีการหยุดยิงชั่วคราว"นายโปโดลยัคระบุในทวิตเตอร์
#รัสเซีย
#หยุดยิงช่วงคริสต์มาส