นางกีตา โกปินาธ รองผู้อำนวยการคนที่หนึ่ง ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า วิกฤตเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังไม่คลี่คลาย เป็นการเร็วเกินไปที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ ทั้งแนะนำให้ใช้นโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เพราะการใช้นโยบายอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องสำคัญ จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย
นางโกปินาธ กล่าวว่า สถานการณ์ของตลาดแรงงาน และภาคบริการยังมีความชัดเจนว่ายังห่างไกลจากจุดจบของปัญหาเงินเฟ้อ ทั้งยังมีความเสี่ยงสูงที่เศรษฐกิจจะประสบภาวะถดถอยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มลดลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมีความเห็นว่า ปัญหาเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
โดยในเดือนตุลาคม อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 7.7 จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.1 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม (2565) เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลัก 50 จุด มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.25 ถึง 4.5 ซึ่งนางโกปินาธคาดว่า อาจต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นประมาณร้อยละ 5 และคงไว้ตลอดทั้งปีเพื่อไม่ให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีก และกล่าวด้วยว่า ยังเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับนโยบายการเงิน แต่เป็นความท้าทายที่ต่างออกไป โดยในปีที่แล้ว (2565) เป็นเรื่องเกี่ยวกับนโยบายการเงิน แต่ในขณะนี้ คือความท้าทายว่าจะคงนโยบายการเงินไว้นานเพียงใด ทั้งเตือนว่ายุโรปอาจใช้เวลานานกว่าสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ เพราะอาจต้องใช้เวลาจนถึงปี 2567 อัตราเงินเฟ้อจะเข้าใกล้เป้าหมายที่อัตราร้อยละ 2
...
#เงินเฟ้อสหรัฐ