ทางการศรีลังกาจะกลับมาเจรจาข้อตกลงการค้ากับไทย อินเดีย และจีน อีกครั้งหลังจากที่การเจรจาถูกระงับในปี 2561 เนื่องจากเผชิญกับวิกฤตการเงินที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 70 ปี ทำให้ขาดแคลนเงินตราต่างประเทศอย่างรุนแรง ในวันที่ 9 มกราคม นี้ เจ้าหน้าที่จากประเทศไทยมีกำหนดเดินทางถึงศรีลังกาเพื่อเริ่มการเจรจารอบที่ 3 กับ นาย เค.เจ. วีระสิงห์ หัวหน้าผู้เจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอของศรีลังกา จากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นการเจรจากับอินเดีย และในเดือนมีนาคม จะเป็นการเจรจากับจีน
นายวีรสิงห์ กล่าวว่า การปรับปรุงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการชักชวนนักลงทุนต่างชาติให้เพิ่มการลงทุนในศรีลังกา เป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเขามีเป้าหมายให้ข้อตกลงเหล่านี้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2566 หรือต้นปี 2567
ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การเจรจาที่ล่าช้าเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจของศรีลังกาและการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในขณะนี้ไทยพร้อมกลับเข้าสู่การเจรจากับศรีลังกาต่อไป
นายวีรสิงห์กล่าวด้วยว่า ศรีลังกามีเป้าหมายที่จะกระชับความตกลงเอฟทีเอที่มีอยู่แล้วกับเพื่อนบ้านทางตอนเหนืออย่างอินเดีย ให้เป็นข้อตกลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี และกำลังหาแนวทางที่จะเพิ่มบริการและการลงทุนในข้อตกลงปัจจุบันซึ่งครอบคลุมการค้าสินค้าเป็นหลัก
ส่วนการหารือเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีกับจีน ซึ่งเป็นผู้ให้กู้ทวิภาคีรายใหญ่ที่สุดของเกาะ หยุดชะงักไปเนื่องจากความเห็นต่างเกี่ยวกับแนวทางการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจของศรีลังกา
ธนาคารกลางศรีลังกาเพิ่มเติมว่า การค้าทวิภาคีระหว่างไทยและศรีลังกามีมูลค่ารวมประมาณ 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และคาดว่า เศรษฐกิจของศรีลังกาจะหดตัวร้อยละ 8.7 ในปี 2565 แต่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2566
ศรีลังกามีการลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นสำหรับแพ็คเกจช่วยเหลือมูลค่า 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ต้องมีการชำระหนี้เดิมบางส่วนก่อน จึงจะเริ่มเบิกจ่ายได้
...
#วิกฤตเศรษฐกิจศรีลังกา