บีบีซี รายงานว่า จดหมายเวียนภายในองค์กรที่นายแอนดี แจสซี ซีอีโอของบริษัทแอมะซอน ผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของสหรัฐฯส่งไปถึงพนักงานของบริษัท ชี้ว่า บริษัทแอมะซอน มีแผนจะปลดพนักงานกว่า 18,000 คน เพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายในยุคเศรษฐกิจอ่อนแอทั่วโลก และผู้บริโภคปรับลดค่าใช้จ่ายในการซื้อของออนไลน์ โดยระบุว่า บริษัทจะแจ้งให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบทราบในวันที่ 18 มกราคมนี้ เป็นการลดพนักงานร้อยละ 6 จากจำนวนพนักงานรวม 300,000 คน จดหมายดังกล่าว ระบุว่า บริษัทได้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน และความยากลำบากทางเศรษฐกิจในปีที่แล้ว คาดว่าในปีนี้จะสามารถประคับประคองให้บริษัทเดินหน้าต่อไป
ขณะเดียวกัน บริษัทแอมะซอนอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อช่วยให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านการประกันสุขภาพระยะสั้นช่วงหางานใหม่ พร้อมทั้งติดป้ายประกาศของบริษัทอื่นๆที่เปิดรับสมัครพนักงานใหม่ ให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบไปสมัครงานใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากการปลดพนักงาน
สำหรับปัจจัยหลักๆที่ทำให้บริษัทปลดพนักงาน เช่น รายได้จากโฆษณาลดลง เนื่องจากองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการจะประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคเริ่มซื้อสินค้าทางออนไลน์น้อยลง เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพสูงในปัจจุบัน กระทบผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซโดยตรง อีกทั้งช่วงเวลาที่ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เฟื่องฟูมากในช่วง 2 ปีก่อน คือ ช่วงที่ทั่วโลกมีการล็อกดาวน์ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งคนทั่วโลกกักตัวอยู่บ้าน นิยมสั่งซื้อของออนไลน์ ได้สิ้นสุดแล้ว
ความเคลื่อนไหวของแอมะซอนมีขึ้น หลังจากที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ทั่วโลกต่างประกาศลดจำนวนพนักงานลงเพื่อประหยัดรายจ่ายท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง เช่น เมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ค สื่อออนไลน์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ปลดพนักงานมากกว่า 11,000 คน หรือราวร้อยละ 13 จากพนักงานทั่วโลก 87,000 คน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ต่อมา ทวิตเตอร์ ปลดพนักงานออกครึ่งหนึ่งเมื่อเดือนธ.ค.65 หลังจากเดือนต.ค.65 มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ด้วยวงเงิน 44,000 ล้านดอลลาร
ข้อมูลจากแชลเลนเจอร์, เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส (Challenger, Gray & Christmas) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงานของสหรัฐระบุว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเดินหน้าปลดพนักงานในระดับใกล้เคียงกับช่วงแรก ๆ ที่โควิด-19 ระบาด โดยในเดือนพ.ย. 2565 อุตสาหกรรมดังกล่าวประกาศปลดพนักงาน 52,771 ตำแหน่ง ส่งผลให้จำนวนพนักงานที่ถูกปลดทั้งหมดในปี 2565 อยู่ที่ 80,978 ตำแหน่ง ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มเก็บข้อมูลในปี 2543
#สหรัฐฯ
#ปลดพนักงาน
#ลดค่าใช้จ่าย