เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมคนร้ายวางเพลิงเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างจำนวน 28 ต้น บริเวณถนนสายห้วยช้าง-คูคต ต.ห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ได้เพิ่มเติม เหตุเกิดช่วงระหว่างวันที่ 19-20 พ.ย.65 พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ห้วยคต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เดินทางลงพื้นที่ไปติดตามคดีตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลสั่งการการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.ตราด,พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมด้วยทีมงานพนักงานสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดและเร่งรัดการสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว
ผู้ต้องหาคนแรกที่เดินทางมามอบตัว คือ นายอนุชา หรือบีม อายุ 19 ปี มอบตัวต่อ พงส.สภ.ห้วยคต และให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุวางเพลิงเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างจริง และก่อเหตุคนเดียว พงส.ได้แจ้งข้อกล่าวหานายอนุชาว่าได้กระทำความผิดฐาน “วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ทำให้เสียทรัพย์” จากกรณีดังกล่าว ทีมงานพนักงานสืบสวน พบข้อพิรุธต้องสงสัยหลายประการ จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ทำให้ทราบว่าพฤติการณ์ตามที่นายอนุชา ให้การรับสารภาพกับพงส.สภ.ห้วยคต ไม่เป็นความจริง นำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ได้ร่วมก่อเหตุในคดีดังกล่าวเพิ่มเติม ได้แก่
1. นายสุรสีห์ หรือปลัดแมว หรือ ป.แมว อายุ 45 ปี ปลัดอำเภอห้วยคต ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1/2566 ลงวันที่ 2 ม.ค.66
2. นายวิรัตน์ หรือต้อม อายุ 34 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า วนอุทยานห้วยคต ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2/2566 ลงวันที่ 2 ม.ค.66 ซึ่งได้ร่วมกันกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร”
ต่อมา วันที่ 3 ม.ค. 66 ทีมงานพนักงานสืบสวนฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยคต ภ.จว.อุทัยธานี ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวิรัตน์ ได้ที่ร้านค้าสวัสดิการ วนอุทยานห้วยคต ต.ห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ส่วนนายสุรสีห์ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ในส่วนของผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่ร่วมกันกระทำความผิดนั้นจะได้ทำการสืบสวนขยายผลและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ครบถ้วนต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นหนึ่งในคดีที่สร้างความหวาดกลัวให้กับบุคคลและประชาชนในพื้นที่ ผู้กระทำผิดกลับเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และจะเร่งขยายผลสืบสวนเพิ่มเติมว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด รวมทั้งจะขยายผลไปยังคดีอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.อุทัยธานี และ จ.นครสวรรค์ อีกด้วย
คดีที่เกิดขึ้นที่ทำให้ ผบ.ตร.ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน เนื่องจาก มีความเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่นๆ อีก 9 เหตุการณ์ ใน 7 พื้นที่ 2 จังหวัด มีลักษณะพฤติการณ์ในคดีใกล้เคียงกัน อาจมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางธุรกิจ เกี่ยวข้องกับการประมูลงานในระดับท้องถิ่น และอาจมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มีส่วนรู้เห็น
#จับเจ้าหน้าที่เผาเสาไฟ
#อุทัยธานี
CR: Police TV by UCI Media