น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (5 ม.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมเป็นต้นไป โดยจะมีผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการต่างประเทศร่วมการประชุม เป้าหมายของการทำงานจะเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายไว้ คือ การดูแลให้สมดุลระหว่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจและควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะรายงานถึงการเตรียมความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และแนวทางการให้ความช่วยเหลือกรณีนักท่องเที่ยวจีนติดเชื้อโควิด-19
กระทรวงคมนาคม จะรายงานถึงการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางท่าอากาศยานซึ่งจะเป็นช่องทางหลัก
กระทรวงการต่างประเทศจะรายงานถึงการเตรียมระบบรองรับการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวจีน และแนวทางการขยายเวลาอนุญาตการเข้าราชอาณาจักร กรณีติดเชื้อโควิด-19
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการที่จะเสนอในที่ประชุมจะยึดหลักปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกชาติและเป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ มีการตรวจเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 คาดว่านักท่องเที่ยวจะทยอยเดินทางมาไตรมาสแรก 300,000 คน โดยจะเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด ต้องใช้เวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ
ส่วนมาตรการขณะพำนักในประเทศไทย แนะนำให้ป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล กรณีเดินทางออกจากประเทศไทยและประเทศปลายทางมีนโยบายตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศ แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ ซึ่งจะมีบริการตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนออกจากประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการเฝ้าระวังโรคกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีอาการทางเดินหายใจ โดยให้ได้รับการตรวจด้วย ATK/PCR และมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์โรคและตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีผู้เดินทางจากต่างประเทศ พร้อมทั้งเพิ่มกลไกการรายงานสถานการณ์ผ่านเว็บไซต์กรมควบคุมโรค
ในส่วนของสถานการณ์ในประเทศไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยลดลง ข้อมูลระหว่างวันที่ 25-31 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,111 ราย เฉลี่ย 301 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 529 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย และผู้เสียชีวิต 75 ราย เฉลี่ย 10 รายต่อวัน โดยเกือบทั้งหมดยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เว้นระยะห่างทุก 4 เดือน ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรับบริการวัคซีนเพิ่มขึ้น 277,206 โดส สะสม 145,928,256 โดส โดยเป็นเข็มแรกร้อยละ 82.7 เข็มที่ 2 ร้อยละ 77.7 เข็มที่ 3 ร้อยละ 38.9 และเข็มที่ 4 ร้อยละ 9.1
....
#นักท่องเที่ยวจีน
#กระทรวงสาธารณสุข