นาย หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีน กล่าวในวันนี้ (1 ม.ค.) ว่าจีนและสหรัฐฯ จะต้องเปิดการเจรจามากกว่าการเผชิญหน้า และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็น ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
โดยเมื่อวันศุกร์ (30 ธ.ค.65) พรรคคอมมิวนิสต์จีน มีคำสั่งโยกย้าย นายฉิน กัง วัย 56 ปี เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกาเป็นรัฐมนตรีการต่างประเทศ แทนนายหวัง อี้ วัย 69 ปีที่มีตำแหน่งสูงขึ้นในโปลิตบูโร จึงย้ายไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของพรรค
ในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารของพรรคคอมมิวนิสต์ นายหวัง อี้ เรียกร้องให้ประเทศใหญ่ๆเป็นตัวอย่างในการเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยอ้างถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นของจีนกับรัสเซียในปี 2565 และมีการสำรวจหาแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้ 2 ประเทศใหญ่อย่างจีนและสหรัฐอเมริกาสามารถสร้างความร่วมมือในการทำงานได้ ทั้ง 2 ประเทศควรกำหนดวิธีการที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพ สันติ และได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องและมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันยังคงเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีนและเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
ด้านนายฉิน แถลงวิสัยทัศน์ในฐานะรัฐมนตรีการต่างประเทศว่า ในการแก้ปัญหาความท้าทายระดับมวลมนุษยชาติ การทูตของจีนจะนำเสนอถึง ภูมิปัญญา ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และความแข็งแกร่งของแผ่นดินจีน
…
#นโยบายการต่างประเทศจีน
#สหรัฐ