สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจ ซึ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนธันวาคม 2565 เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2563 เนื่องจากการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศ หลังจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคอย่างกระทันหัน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรายเดือนลดลงเหลือ 47.0 จาก 48.0 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของกิจกรรม
การหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เมื่อการระบาดของโควิด-19 เพิ่งเริ่มต้น และการอ่อนกำลังลงในรอบนี้เกิดขึ้นเมื่อจีนผ่อนคลายข้อจำกัดโควิด-19 อย่างกะทันหัน หลังการใช้มาตรการที่มีความเข้มงวดมา 3 ปี ทำให้ประเทศที่มีประชากร 1,400 ล้านคนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ และทางการหยุดการรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวัน
นอกจากนี้ ดัชนีย่อยอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมทั้งสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ การผลิตและความต้องการในตลาดการผลิตก็ลดลงเช่นกันเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน
นายจ้าว ชิงเหอ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสำนักงานสถิติ กล่าวว่า บริษัทบางแห่งได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ทำให้มีกำลังคนด้านโลจิสติกส์และการขนส่งไม่เพียงพอ ต้องขยายเวลาการจัดส่งออกไป
อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม ภาคการก่อสร้างมีการขยายตัว รวมถึงการขนส่งทางอากาศ โทรคมนาคม และบริการทางการเงิน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำหรับภาคที่ไม่ใช่ภาคการผลิตของจีนลดลงมาอยู่ที่ 41.6 ในเดือนธันวาคม เป็นการลดลงต่อเนื่องจากระดับ 46.7 ในเดือนพฤศจิกายน
จีนมีแนวโน้มที่จะพลาดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 5.5 ในปี 2565 นักพยากรณ์เศรษฐกิจปรับลดแนวโน้มการเติบโตต่อปีให้ต่ำถึงร้อยละ 3
..
#เศรษฐกิจจีน