สหรัฐฯและแคนาดายังคงเผชิญฤดูหนาว โดยในสหรัฐฯ สภาพอากาศลมแรง-หนาวจัด อุณหภูมิลบ 45 องศาเซลเซียส หิมะตกหนัก มีปริมาณหิมะสูง 4 ฟุต บีบีซีรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯอยู่ที่ 62 ราย ในจำนวนนี้ รวมถึง 28 รายในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในสหรัฐฯ ส่วนรัฐอื่นๆที่มีรายงานเรื่องการเสียชีวิตจากพายุหิมะ เช่น รัฐเวอร์มอนต์, โอไฮโอ, มิสซูรี, วิสคอนซิน,แคนซัส และรัฐโคโลราโด
ส่วนเรื่องไฟฟ้าดับ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้วบ้านเรือนและธุรกิจ 250,000 แห่งไม่มีไฟฟ้าใช้ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าสามารถกู้ระบบไฟฟ้าจนกระทั่งจ่ายไฟฟ้าตามปกติในหลายท้องที่ ด้านนายไบรอน บราวน์ นายกเทศมนตรีเมืองบัฟฟาโล กล่าวถึงสถานการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ว่า ชาวบ้านกว่า 4,000 ครัวเรือนในเมืองบัฟฟาโลไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ลดจาก 20,000 ครัวเรือนก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลท้องถิ่นเช่น เขตอีรีเคาน์ตี (เมืองบัฟฟาโล) เจ้าหน้าที่ได้ขอให้สารวัตรทหารมาทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อบริหารจัดการเรื่องการจราจรในบางจุดเนื่องจากไฟดับ ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ทำให้เกิดความโกลาหลในการใช้รถใช้ถนนพอสมควร อีกทั้งมีรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายปล้นร้านค้าในบางท้องที่
ส่วนผลกระทบด้านการบิน มีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 15,000 เที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากติดค้างอยู่ในสนามบินต่างๆทั่วประเทศสหรัฐฯ แต่สถานการณ์ในวันนี้ เริ่มดีขึ้น มีหิมะตกน้อยลง อากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับวันก่อนๆ ช่วยให้ทีมกู้ภัยปฏิบัติงานง่ายกว่าเดิม เช่น การขุดตักหิมะเพื่อนำรถยนต์ที่ติดหล่มหิมะออกจากท้องถนน เพื่อเปิดการจราจร ตลอดถึงการซ่อมระบบไฟฟ้าเพื่อให้สามารถจ่ายไฟฟ้าไปยังครัวเรือนต่างๆตามปกติ เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯเตือนว่า อากาศที่อบอุ่นมากขึ้น อุณหภูมิค่อยๆเพิ่มขึ้นอาจจะเกิดปัญหาใหม่เช่น น้ำท่วมหลังหิมะละลาย
สำหรับในแคนาดา มีคนเสียชีวิต 4 ราย หลังรถบัสคันหนึ่งพลิกคว่ำเนื่องจากหิมะตกหนัก ถนนลื่นในเมืองเมร์ริตต์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ทางภาคตะวันตกของแคนาดา นอกจากนี้ ประชาชนในรัฐออนแทรีโอทางภาคตะวันออกและรัฐควิเบก ทางภาคตะวันตกของประเทศได้รับผลกระทบจากพายุฤดูหนาว มีหิมะตกหนัก ไฟฟ้าดับเช่นกัน มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐออนแทรีโอ พร้อมระดมทีมกู้ภัยขุดตักหิมะออกจากถนน เนื่องจากเสี่ยงทำให้รถติดหล่มหิมะหรือถนนลื่น
#สหรัฐฯ
#แคนาดา
#พายุฤดูหนาว