การเดินทางช่วงปีใหม่ 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 อำนวยการจราจรและแก้ไขอุบัติเหตุ ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น (29 ธ.ค.65 ถึง 4 ม.ค.66)
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ได้สั่งเตรียมความพร้อมกำลังพลกว่า 50,000 นาย อำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลความปลอดภัย บังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยจะปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาลไม่มีวันหยุด สำหรับวันนี้ เป็นวันแรกที่เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ได้สั่งการให้ บช.น.ภ.1-9 และ บก.ทล.ปฏิบัติ ดังนี้
1) คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีรถเดินทางเข้าออก กทม. มากถึงจำนวน 7.3 ล้านคัน โดยปริมาณรถขาออก มากที่สุด วันที่ 29 ธ.ค.65และ 30 ธ.ค.65 และปริมาณรถขาเข้ามากที่สุด วันที่ 2 ม.ค.66 และ 3 ม.ค.66 สั่งการให้ทุกหน่วยประสานเจ้าของถนนคืนพื้นผิวการจราจร จุดที่มีการก่อสร้าง ซ่อมแซม สามารถคืนพื้นผิวได้ทั้งหมด 408 จุดทั่วประเทศ จัดตำรวจอำนวยการจราจร ตามจุดสำคัญที่มีปัญหาการจราจร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้มีชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ เช่น รถยก รถสไลด์ เข้าถึงที่เกิดเหตุและคลี่คลายการจราจรได้ทันที นอกจากนี้ยังได้ออกข้อบังคับเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถทั้งขาเข้าและออก กทม. 9 เส้นทาง 10 จังหวัด รวมระยะทาง 450 กม. ตำรวจทางหลวงจะเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่วันนี้(28ธ.ค.65)เป็นต้นไปตามสภาพการจราจร และได้ออกข้อบังคับห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนน 7 เส้นทาง เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรรวมระยะทาง 194 กม. สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถ เช่น รถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง อาหารสด สามารถยื่นคำขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ ของ บก.ทล. ได้ที่ www.hwpdth.com.
2) การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กำหนดเป้าหมายให้ทุก ภ.จว. ลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ จากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 โดยมีมาตรการให้ทุกหน่วยทำบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพื่อเข้าไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องปรามกลุ่มเป้าหมาย และตั้งจุดตรวจเพื่อกวดขันจับกุมการกระทำผิดกฎจราจรที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เริ่มบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ 22 ธ.ค.65 เป็นต้นมา เน้นหนักใน 4 ข้อหา ตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่
-ขับรถในขณะเมาสุรา
-ขับรถเร็วเกินกำหนด
-ไม่สวมหมวกนิรภัย
-ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.65 – 27 ธ.ค.65 มีการจับกุมทั้ง 4 ข้อหารวมแล้วทั้งสิ้น 9,364 ราย
บก.ทล. ออกใบสั่งกล้องตรวจจับความเร็วทั่วประเทศอีกจำนวน 115,906 ราย โดยในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น (29 ธ.ค.65 ถึง 4 ม.ค.66) ตั้งจุดตรวจทั่วประเทศรวม 3,771 จุด แบ่งเป็น จุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 2,142 จุด (กำลังพล 19,699 นาย) จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,629 จุด (กำลังพล 13,726 นาย) นอกจากนั้น กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน หากผู้ขับขี่ปฏิเสธไม่ยอมให้ทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ จะถูกกฎหมายสันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ตั้งแต่ 28 ธ.ค.65 ถึง 5 ม.ค.66 กำหนดให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์อุบัติเหตุและการจราจรทุกวัน ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น โดยมอบหมาย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. และผู้บังคับบัญชาของศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) แถลง
ผบ.ตร. กล่าวว่า การจะลดอุบัติเหตุบนถนนได้อย่างมีนัยสำคัญ ต้องสร้างจิตสำนึกการขับขี่ปลอดภัยตามกฎหมายจราจรให้กับสังคม ซึ่ง ตร. ได้ทำโครงการอาสาตาจราจร ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ บ.วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จส.100 เพื่อให้ประชาชนส่งคลิปกล้องหน้ารถ หรือคลิปจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกเหตุการณ์การกระทำผิดกฎจราจรสำคัญที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น หรือบันทึกอุบัติเหตุสำคัญและสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในทางคดีของตำรวจได้เพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด
เทศกาลปีใหม่นี้ จะมีแคมเปญพิเศษ “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ให้ประชาชนส่งคลิปในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของเทศกาลปีใหม่ 2566 จากคลิปที่ส่งมาทั้งหมด จะมีการคัดเลือกให้เหลือ 7 คลิป และจะมีรางวัลให้คลิปละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 70,000 บาท โดยได้รับสนับสนุนเงินรางวัลจาก บ.วิริยะประกันภัย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำ 10 ข้อ ในการขับขี่ปลอดภัย
1.สภาพร่างกายผู้ขับขี่มีความพร้อม พักผ่อนเพียงพอ
2.ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง
3.ศึกษาและวางแผนเส้นทาง เพื่อให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัย
4.ดื่มไม่ขับ รวมถึงผู้โดยสารต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์บนรถโดยเด็ดขาด
5.ถึงช้าหน่อยแต่ปลอดภัย ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
6.ใช้อุปกรณ์นิรภัยขณะขับขี่และโดยสาร (หมวกนิรภัย เข็มขัดนิรภัย)
7.ปฏิบัติตามกฎจราจรและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
8.ไม่เปิดเพลงเสียงดัง หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญในทาง
9.หากง่วงนอนหรือเพลีย ให้แวะพัก
10.มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทางบนท้องถนน
ผู้ที่ใช้รถใช้ถนน ต้องการสอบถามเส้นทาง แจ้งอุบัติเหตุ หรือ ขอความช่วยเหลือ โทร. 1193 (ทางหลวงทั่วประเทศ) หรือ 1197 (กทม. และปริมณฑล) หรือ 191 และ 1599
#เปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุทางถนน
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
CR:กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ