รอยเตอร์ รายงานอ้างข้อมูลการค้าของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการบริโภคของครัวเรือนในญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน เติบโตร้อยละ 2.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการเติบโต 9 เดือนติดต่อกัน หลังรัฐบาลญี่ปุ่นปลดล็อกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการเปิดชายแดนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง และโครงการอุดหนุนค่าเดินทางและที่พักของนักท่องเที่ยว ซึ่งเปิดตัวกลางเดือนตุลาคม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้นในการเดินทางและการซื้อสินค้าต่างๆ
แต่ตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายน ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 3.7 และต่ำกว่าการเติบโตร้อยละ 4.4 ในเดือนตุลาคมและร้อยละ 4.8 ในเดือนกันยายน เนื่องจากผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาสินค้า ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ปรับลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนด้วย ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อของญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ร้อยละ 3.8 สูงที่สุดในรอบ 40 ปี ชี้ว่า สินค้าในทุกกลุ่มมีการปรับราคาสูงขึ้น มีผลให้ผู้บริโภคใช้จ่ายซื้อสินค้าลดลงเช่นกัน
ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงในสัปดาห์ที่แล้วชี้ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นสูงเกือบ 1 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายน หลังญี่ปุ่นปลดล็อกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนตุลาคม อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเที่ยวได้ตามปกติ หลังปิดประเทศมากว่า 2 ปี
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 1.5 จากเดิมร้อยละ 1.1 หลังประเมินว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มูลค่า 270,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ และส่งเสริมการลงทุนจากเอกชนมากขึ้น พร้อมทั้งปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2565 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.7 จากเดิมร้อยละ 2.0 เนื่องจากผลกระทบจากน้ำมันและอาหารมีราคาแพงขึ้น นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
#ญี่ปุ่น
#การค้าปลีก
#เศรษฐกิจ