กองปราบ รับทำคดี 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' หนีออกจากศาล แจ้งข้อหา-ยึดทรัพย์เพิ่ม

23 ธันวาคม 2565, 12:40น.


          การดำเนินคดีและขยายผลหาคนช่วยนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากคดีหลอกให้ร่วมลงทุน พยายามหลบหนีจากศาลอาญา รัชดาภิเษก  ขณะฟังการพิจารณาคดี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ.8) ปฏิบัติราชการ บช.ก.,พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. สืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล



         ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ได้แก่ นายสมประสงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เป็นผู้ที่นำเสื้อผ้ามาให้นายประสิทธิ์เปลี่ยนในห้องน้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนกับนายประสิทธิ์จำนวนกว่า 10 ล้านบาท ที่ยังคงเชื่อว่าหากไม่แจ้งความร้องทุกข์ และคอยติดตามช่วยเหลือเรื่องคดีให้นายประสิทธิ์จะได้รับเงินจำนวนดังกล่าวคืน และยังมีกลุ่มอดีตพนักงาน กลุ่มเลขานายประสิทธิ์ รวมทั้งกลุ่มผู้ช่วยทนายความให้การช่วยเหลือและรู้เห็นในการวางแผนหลบหนีครั้งนี้



         จากการตรวจสอบ พบพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าการพยายามหลบหนีในครั้งนี้มีการวางแผนตระเตรียมมาก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขังหลบหนี เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผล ติดตามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป



         เบื้องต้นถือว่าการกระทำดังกล่าวของนายประสิทธิ์เป็นความผิดฐานหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



         ในส่วนของผู้สมรู้ร่วมคิดในการช่วยเหลือนายประสิทธิ์เข้าข่ายเป็นความผิด ฐานช่วยให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวนหลุดพ้นจากการคุมขัง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



         ศาลอาญา จะมีการพิจารณาตั้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ด้วยเช่นกัน



        กรณีมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และหน่วยงานให้การช่วยเหลือหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ เท่าที่สอบสวนมายังไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ กำลังตั้งกรรมการสอบสวนอยู่ คงต้องดูว่าเกี่ยวข้องหรือไม่  การสอบสวนไม่ได้ตัดประเด็น ตั้งข้อสังเกตเอากุญแจมาจากไหน และจังหวะที่หลบหนีจากห้องน้ำ ผ่านเจ้าหน้าที่มาอย่างไร อยู่ระหว่างซักถาม ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ดูข้อเท็จจริง ได้แจ้งข้อหากับนายสมประสงค์ ที่เอาของไปส่งห้องน้ำข้าง ๆ แล้วต่อมาได้เจอกุญแจ และชุดที่นายประสิทธิ์สวม ซึ่งได้ตรวจยึดได้ สำหรับนายประสิทธิ์ ได้แจ้งข้อหาหลบหนีระหว่างควบคุมตามอำนาจศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนผู้ช่วยเหลือจะโดนข้อหาช่วยให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งโทษหนักกว่านายประสิทธิ์ ส่วนเลขาฯนายประสิทธิ์และแฟนหนุ่ม อยู่ระหว่างดำเนินการ ใครเกี่ยวข้องดำเนินคดีหมด คดีอยู่ที่สน.พหลโยธิน จะโอนสำนวนมาที่กองปราบปราม เพราะเป็นขบวนการมีความสลับซับซ้อน



          พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ยังไม่มีโอกาสคุยนายประสิทธิ์ แต่คิดว่าเขาโดนหลายคดี โทษไม่น่าจะน้อย คดีหลัก 6 คดีและแต่ละคดีมีหลายกรรม และคดีฟอกเงินอีก และยังไม่รู้จะโดนเพิ่มอีกหรือไม่ จึงคิดว่าสุดท้ายถ้าแพ้คงต้องติดคุกอีกนาน และยังไม่แน่ใจว่านายประสิทธิ์ยังซุกซ่อนเงินอยู่ที่ไหนอยู่หรือเปล่า ถ้าออกไปสามารถไปเอาเงินที่ซ่อนไว้แล้วไปต่อ เมื่อถามต่อว่า เวลาขึ้นศาลนายประสิทธิ์จะมั่นใจว่าตัวเองจะได้ออกไป จะตรวจสอบหรือไม่ นายประสิทธิ์พูดได้ทุกอย่างเหมือนที่หลอกคนให้มาร่วมลงทุน เพื่อให้คนเชื่อว่าตัวเขาเองควบคุมได้ทุกอย่าง เป็นเทคนิคนายประสิทธิ์มากกว่า แต่เรื่องจริงคือศาลยังไม่ให้ประกันนายประสิทธิ์



        พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รองผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กล่าวถึง การยึดทรัพย์นายประสิทธิ์ว่า พนักงานสอบสวนได้ส่งข้อมูลทรัพย์ทั้งหมดไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์ทั้งหมด เป็นอำนาจของปปง.ขณะนี้ ปปง.ได้สั่งยึดทรัพย์มาแล้ว 3 คำสั่ง มูลค่า 265 ล้านบาท และมีทรัพย์อีกชุดหนึ่ง เป็นหุ้นผู้ทำประกันภัย มูลค่า 261 ล้านบาทรอคำสั่งปปง.เชื่อว่าจะมีคำสั่งยึดทรัพย์ตามมาหลังจากนี้



 



#ประสิทธิ์เจียวก๊ก



CR:ภาพดาวแปดแฉก

ข่าวทั้งหมด

X