ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(22 ธ.ค.65) ดิ่งลงหนัก ตามแรงฉุดของกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความยืดหยุ่น ทำให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจเดินหน้านโยบายเชิงรุก คงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
-ดาวโจนส์ ลดลง 348.99 จุด (1.05%) ปิดที่ 33,027.49 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 56.05 จุด (1.45%) ปิดที่ 3,822.39 จุด
-แนสแดค ลดลง 233.25 จุด (2.18%) ปิดที่ 10,476.12 จุด
แอปเปิล และ ไมโครซอฟต์ แกว่งตัวหนักและเป็นหุ้น 2 ตัวหลักที่ฉุดรั้งกลุ่มเทคโนโลยี เช่นเดียวกับ บรรดาบริษัทผู้ผลิตชิปทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงเอ็นวิเดีย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัว 3.2% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6% และ 2.9% ตามลำดับ หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ทำให้สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 222,000 ราย
ลิซ แอนน์ ซอนเดอร์ส หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของชาร์ลส์ ชวาบ กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในตลาดแรงงาน ทำให้เฟดยังคงเดินหน้าแตะเบรกทางเศรษฐกิจ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากสหรัฐฯ อัพเดทข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจ และปัจจัยนี้เองฉุดให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(22ธ.ค.) ปิดลบ
-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนก.พ.66 ลดลง 30.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,795.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#หุ้นสหรัฐฯ
แฟ้มภาพ