'อ.ธรณ์' อธิบายการค้นหากำลังพล ร.ล.สุโขทัย ทำสอดคล้องหลักสมุทรศาสตร์-ทุ่นกระแสสมุทร

23 ธันวาคม 2565, 05:10น.


          ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยข้อมูลกับ จส.100 เรื่องการค้นหากำลังพล 23 นาย ของเรือหลวงสุโขทัยอับปางในทะเล อ.บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ ว่าในการค้นหาทางทะเล พื้นที่กว้างมากและมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเลตลอด นักสมุทรศาสตร์ มีการทำแบบจำลองกระแสน้ำจะพัดเลียบฝั่งและพุ่งลงทางใต้ ไปทาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร-จ.สุราษฎร์ธานี หรืออีกทิศทางหนึ่งก็ออกไปทางเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนหนึ่งในการติดตามผ่านแบบจำลอง ก็คือทุ่นจำลอง ที่เป็นทุ่นกระแสสมุทร เป็นทุ่นที่ลอยอยู่ในทะเล ตอนนี้คือลูกที่ 5 ปล่อยลงทะเลจากแท่นผลิตปิโตรเลียม ปตท.สผ. เมื่อบ่ายวันที่ 15 ธ.ค.65 ทุ่นดังกล่าวติด GPS รายงานผ่านดาวเทียมให้ทราบเส้นทางตลอดเวลา เป็นทุ่นลอยผิวน้ำ บอกทิศทางการเคลื่อนที่ พบว่าเส้นสีน้ำเงินมีทิศทาง น้ำไหลเข้าอ่าวไทย



         ข้อมูลนี้บอกเราได้ว่า โอกาสที่ผู้สูญหายจะลอยออกไปจากอ่าวเป็นไปได้น้อย เพราะน้ำไหลเข้าอ่าว เมื่อนำข้อมูลทั้ง 2 ส่วนมาประกอบกัน คงพอให้เห็นภาพว่าทุกฝ่ายกำลังพยายามเต็มที่และสอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการ



         จากการสังเกตของทุ่น น้ำทะเลเริ่มเคลื่อนเบาแล้ว กองทัพเรือหรือหน่วยงานที่ช่วยเหลือคงต้องใช้เวลาพอสมควร ควรต้องใช้อากาศยานที่สามารถมองมุมสูงได้ หรือไม่ก็ใช้โดรน ตรวจสอบอีกทางก็ได้ และให้ทางเรือ ตรวจสอบเช็คอีกครั้ง เพราะหากมองในระดับเดียวกับทะเล คลื่นในทะเลจะสะท้อนแสง ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่หัวลมผ่านเข้ามา แต่ถึงตอนนี้ก็ยังมีคลื่นลมอยู่ ความแรงเบาลงไปแล้ว



          ผศ.ดร.ธรณ์  แนะนำว่า อาจจะให้ทีมค้นหาไปสำรวจตามเกาะต่างๆ ในระยะที่คำนวณไว้ก็ได้ เช่น หมู่เกาะอ่างทอง ส่วนใต้น้ำก็ยังต้องรอการใช้เครื่องมือตรวจสอบจุดที่เรือจมลงไป พร้อมทั้งมองว่า ไทยน่าจะลงทุนในระยะยาว เรื่องการตรวจสอบทางข้อมูลทางสมุทรศาสตร์ เพราะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทุกครั้งในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หากได้ใช้ประโยชน์ ก็น่าจะคุ้มค่ากับการลงทุน   



          ก่อนหน้านี้ ผศ.ดร.ธรณ์  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า “ผมอยากอธิบายกรณีตามหาผู้สูญหายจากเรือสุโขทัย โดยอาศัยข้อมูลด้านสมุทรศาสตร์/วิทยาศาสตร์ทางทะเล ฐานข้อมูลที่ใช้มาจากแบบจำลองกระแสน้ำและทุ่นกระแสสมุทรที่กำลังลอยอยู่ในทะเลตอนนี้ ด้วยความร่วมมือของปตท.สผ./คณะประมง/สสน.



          ภาพซ้ายมือ คือ แบบจำลองกระแสน้ำในช่วงนี้ของอ่าวไทย จุดแดงคือจุดสมมุติบริเวณเรืออับปาง ต้องบอกว่าผมลงจุดเอง อาจคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง ใช้เพื่อประกอบแบบจำลองเท่านั้น จากภาพเราจะเห็นลูกศรจำนวนมาก บอกทิศทางของกระแสน้ำ ยิ่งลูกศรซ้อนกันเยอะ หมายถึง ความแรงของกระแสน้ำค่อนข้างมาก หัวลูกศร คือ ทิศทางที่น้ำไหลไป  สังเกตบริเวณจุดแดง จะเห็นกระแสน้ำไหลแรงลงใต้ หมายถึงการค้นหาควรเน้นในบริเวณนั้น ซึ่งการค้นหาในปัจจุบันก็ทำสอดคล้องกับข้อมูลอยู่แล้ว เช่น ชายฝั่งชุมพร บริเวณเกาะต่างๆ เช่น เกาะเต่า ฯลฯ



         ภาพที่สองหรือภาพขวามือคือ เส้นทางของทุ่นกระแสสมุทร ที่ผมเคยเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟังหลายครั้ง ทุ่นที่ลอยอยู่ในทะเลตอนนี้คือลูกที่ 5 ปล่อยลงทะเลจากแท่นผลิตปิโตรเลียม ปตท.สผ. ในบ่ายวันที่ 15 เดือนนี้ ทุ่นดังกล่าวติด GPS รายงานผ่านดาวเทียมให้ทราบเส้นทางตลอดเวลา เป็นทุ่นลอยผิวน้ำ บอกทิศทางการเคลื่อนที่ จุดสีแดงคือตำแหน่งทุ่นปัจจุบัน เห็นเส้นสีน้ำเงินคือจุดต่างๆ ที่ลอยผ่านมา ทิศทางของทุ่นลอยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ หมายถึง น้ำไหลเข้าอ่าวไทย แม้ตำแหน่งทุ่นจะไม่ได้อยู่ในบริเวณเกิดเหตุหรือการค้นหา แต่ข้อมูลนี้บอกเราได้ว่า โอกาสที่ผู้สูญหายจะลอยออกไปจากอ่าวเป็นไปได้น้อย เพราะน้ำไหลเข้าอ่าว เมื่อนำข้อมูลทั้ง 2 ส่วนมาประกอบกัน คงพอให้เพื่อนธรณ์เห็นภาพว่าทุกฝ่ายกำลังพยายามเต็มที่และสอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการ อีกส่วนหนึ่งที่ทุ่นบันทึกได้คืออุณหภูมิน้ำทะเล เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี น้ำเย็นลงชัดเจน จาก 29.5 เหลือ 28.3 องศา การให้ความอบอุ่นอย่างรวดเร็วหากพบผู้ประสบภัยเป็นอีกเรื่องที่พอบอกได้ น่าเสียดายที่เราไม่มีทุ่นลอยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงยังขาดข้อมูลอื่นๆ ผมเคยเสนอให้คณะกรรมการต่างๆ ที่ผมมีส่วนร่วมว่า ข้อมูลสมุทรศาสตร์พวกนี้สำคัญมาก เราควรมีสถานีถาวรสำหรับตรวจวัดสมุทรศาสตร์ในด้านต่างๆ อย่างน้อย 3 สถานีในอ่าวไทย ปัจจุบันมีเพียง 1 แห่งที่สถานีวิจัยคณะประมง ศรีราชา มันน้อยเกินไปที่จะทำงานให้แม่นยำครอบคลุมพื้นที่กว้างจุดหนึ่งที่เคยเสนอและเกือบผ่านคือสถานีในชายฝั่งตะวันตก (เพชรบุรี/ประจวบ) แต่อาจไม่มีงบ ทำให้เรื่องเงียบไป ยังรวมถึงการศึกษาในรายละเอียดเพิ่มขึ้น การใช้ทุ่นกระแสสมุทรตามจุดต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ให้มากกว่านี้ เพื่อเพิ่มความแม่นยำของแบบจำลอง และช่วยได้ในสถานการณ์จริง เท่าที่คณะประมง/ปตท.สผ./สสน. ทำขึ้นมาก็คงเห็นประโยชน์ชัดเจน ไม่ใช่เฉพาะโลกร้อนหรือปัญหาผลกระทบจากมนุษย์ การศึกษาวิจัยเพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำและระบบนิเวศ ยังรวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในกรณีภัยพิบัติ งานทะเลไม่สามารถทำได้เฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ต้องทำไปพร้อมกัน และฐานข้อมูลทะเลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และต้องลงทุนเพื่อให้ได้มา



         สุดท้าย ผมอยากส่งกำลังใจให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะครอบครัวทหารผู้กล้า ผมยังคงหวังในปาฏิหาริย์ครับ



         ขอบคุณ ดร.ธนัสพงษ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มก. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านในการทำงานด้านสมุทรศาสตร์ของไทยครับ”



 



#อาจารย์ธรณ์



#ค้นหากำลังพล



#เรือหลวงสุโขทัย



CR:ข้อมูล-ภาพ Thon Thamrongnawasawat 

ข่าวทั้งหมด

X