บีบีซี รายงานอ้าง ศ.หวัง กุ้ยเฉียง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดของจีนว่า ประเทศจีนได้ปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การนับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ใหม่ โดยให้นับรวมเป็นการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เฉพาะกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยด้วยโรคปอดบวม และทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งต้องมีหลักฐานจากการสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)แสดงว่า ปอดของผู้ป่วยเสียหาย จนกระทั่งเกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจล้มเหลว อีกทั้งไม่ให้รวมการเสียชีวิตจากโรคประจำตัว เป็นการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ด้วย
ภายใต้หลักเกณฑ์ใหม่ จีนพบผู้เสียชีวิต 5 รายเมื่อวาน และ 2 รายเมื่อวันจันทร์ รวมเสียชีวิต 7 รายในสัปดาห์นี้ และไม่พบผู้เสียชีวิตในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายสงสัยว่า การปรับหลักเกณฑ์พิจารณาการเสียชีวิตใหม่อาจทำให้จีนไม่ทราบภาพรวมที่แท้จริงของการแพร่ระบาดในประเทศ โดยเฉพาะหลังจากจีนยกเลิกมาตรการตรวจคัดครองและมาตรการล็อกดาวน์เมื่อต้นเดือนนี้ ทำให้จีนมีผู้เสียชีวิตสะสม 5,241 ราย หรือเฉลี่ยเสียชีวิต 3 รายต่อประชากรทุกหนึ่งล้านคนในจีน เทียบกับการเสียชีวิต 3,000 รายต่อประชากรหนึ่งล้านคนในสหรัฐฯ และเสียชีวิต 2,400 รายต่อประชากรหนึ่งล้านคนในอังกฤษ
ที่ผ่านมา WHO แนะนำว่า ประเทศต่างๆอาจจะใช้วิธีการที่แตกต่างกันในการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และรายงานเรื่องการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทำให้การเปรียบเทียบข้อมูลเรื่องนี้กับประเทศอื่นๆทำได้ลำบาก เนื่องจาก ประเทศส่วนใหญ่บันทึกข้อมูลการเสียชีวิตโดยยึดหลักที่เรียกว่า การตายส่วนเกิน (excess mortality) เพื่อพิจารณาในทางระบาดวิทยาว่า มีคนตายมากกว่าสถานการณ์ปกติก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กี่คน
ทั้งให้นับรวมการเสียชีวิตที่ไม่ได้มีสาเหตุโดยตรงจากโรคโควิด-19 เป็นสาเหตุข้างเคียงนำไปสู่การเสียชีวิต เช่น กรณีผู้ป่วยไม่สามารถเข้ารับการรักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลแต่เนิ่นๆเนื่องจากโรงพยาบาลขาดแคลนเตียงคนไข้ และให้ถือว่าการเสียชีวิตจากโรคประจำตัว เป็นการเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ด้วย
#จีน
#ปรับเปลี่ยนเกณฑ์การเสียชีวิตใหม่
#สถานการณ์โควิด