กทพ.รับฟังความเห็น-เลือกเส้นทาง โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จ.ภูเก็ต

          เวทีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ผลการคัดเลือกรูปแบบทางเลือกที่เหมาะสมงานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ระยะทาง 30 กิโลเมตร 4 ช่องจราจร เพื่อแก้ปัญหาการจราจรจากสนามบินเชื่อมต่อพื้นที่ชั้นในและแหล่งท่องเที่ยว รองรับนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ

          พื้นที่โครงการครอบคลุม ต.เทพกระษัตรี  ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ต.กะทู้ อ.กะทู้ ต.เกาะแก้ว อ. เมืองจ.ภูเก็ต เป็นอีกเส้นทางที่จะแก้ปัญหาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 402 เพิ่มศักยภาพด้านการคมนาคม แนวสายทางช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว หรือโครงการเฟสที่ 1 จะใช้แนวสายทางตามผลการศึกษาของกรมทางหลวงที่เคยออกแบบไว้เมื่อปี 2559 เป็นหลัก ส่วนแนวสายทางช่วงเกาะแก้ว-กะทู้ จะเป็นแนวสายทางที่เพิ่มขึ้นมา เป็นเฟสที่ 2 เพื่อเชื่อมโยงกับโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ

         ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม และออกแบบกรอบรายละเอียดโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.66 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ยืนยันถึงความสำคัญในการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และภาคเอกชน เพื่อปรับปรุงรูปแบบของโครงการให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มศักยภาพด้านการคมนาคม และคำนึงถึงความคุ้มค่า อัตราค่าผ่านทางไม่มากเกินไป

          แนวเส้นทางที่เหมาะสมในโครงการ เลือกแนวเส้นทางเลือกที่ 2 จุดเริ่มต้นแนวทางคัดเลือกอยู่บริเวณ กม.19+975 มุ่งหน้าลงทิศใต้ ยกระดับคร่อมถนนวิชิตสงคราม หลบพื้นที่ชุมชน จากนั้นจะเข้าสู่พื้นที่ชุมชนบริเวณใกล้กับจุดสิ้นสุดแนวคัดเลือก โดยจะมีทางยกระดับในช่วงพื้นที่ถนนวิชิตสงครามและในช่วงพื้นที่เมืองกะทู้ รวมระยะทางของแนวคัดเลือกนี้ประมาณ 4.239 กิโลเมตร แนวทางนี้ในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนมีค่าก่อสร้างน้อยที่สุด และในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีผลกระทบต่อบ้านเรือนของประชาชนน้อย ดังนั้นรูปแบบที่ 2 จะมีความเหมาะสมที่สุดที่จะใช้ในการก่อสร้าง

          ผู้เข้าร่วมการประชุมห่วงโครงการตัดผ่านพื้นที่ป่า ชุมชน การเวนคืน และการชดเชย รวมทั้ง การประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง เนื่องจาก โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2567เพื่อให้เปิดเส้นทางใช้ได้ทันปี 2570 นายมนูญ แสงเพลิง ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จะมีการตัดผ่านพื้นที่ป่ากมลา จึงจะก่อสร้างเป็นอุโมงค์ และจะมีมาตรการลดผลกระทบหากอยู่ใกล้พื้นที่ชุมชนและโรงเรียน ส่วนการชดเชยค่าเวนคืนที่ดินจะจ่ายให้กับเจ้าของที่ดิน ตามราคายุติธรรมของทั้งสองฝ่ายและอยู่ที่คณะกรรมการกำหนดราคา ในการประชุมกลุ่มย่อย และการประชุมครั้งที่ 3 ราวเดือน ม.ค.66 จะให้ประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากการเวนคืน นำเอกสารสิทธิ หรือสำเนา มาตรวจสอบ และในการประชุมเวทีย่อยครั้งต่อไปจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย เนื่องจาก ช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจทางเลือก และในเดือน ม.ค.66 จะลงสำรวจพื้นที่กะทู้    

        ส่วนการเก็บค่าผ่านทางอยู่ระหว่างการประเมิน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของรถยนต์ รถทัวร์ รถบัส รถเทรลเลอร์ รถ10 ล้อ ค่าผ่านทางสูง แต่ต้องมีความเหมาะสมและให้ประชาชนสนใจมาใช้งาน และทางด่วนเส้นนี้ กทพ.จะนำระบบ M-Flow มาใช้งาน

        ด้านนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ติดตามเวทีการประชุมรับฟังความคิดเห็นว่า หากโครงการนี้สำเร็จน่าจะรองรับเรื่องที่จ. ภูเก็ต เสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028-Phuket Thailand ภายใต้หัวข้อ Future of Life:Living in Harmony, Sharing Prosperity มีประเทศสนใจสมัครเข้าแข่งขันเป็นเจ้าภาพ 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย (ภูเก็ต) สหรัฐฯ อาร์เจนตินา เซอร์เบีย สเปน แม้โครงการนี้จะยังไม่ได้ตัดสิน แต่คิดว่า จ.ภูเก็ตน่าจะได้รับการคัดเลือก

#การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 

#โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่

#ภูเก็ต

รายละเอียดเพิ่มเติม :https://www.js100.com/en/site/news/view/119432