ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวต่อที่ประชุมผู้บัญชาการทางทหารระดับสูงของยูเครนว่า การปกป้องชายแดนที่ติดต่อกับรัสเซีย(ทางภาคตะวันออกของยูเครน) และเบลารุส(ทางภาคเหนือของยูเครน)ยังคงเป็นภารกิจสำคัญสูงสุดสำหรับยูเครน ทั้งกำชับให้กองทัพยูเครนเตรียมกำลังพลให้พร้อมรับมือกับการบุกในทุกสถานการณ์ทั้งจากรัสเซียและเบลารุส พันธมิตรรัสเซีย หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า เบลารุสอาจจะถูกดึงเข้ามาพัวพันกับการสู้รบในยูเครน หลังจากรัสเซีย-ยูเครน สู้รบมา 10 เดือนแล้ว
นายเซเลนสกี ย้ำข้อเรียกร้องของยูเครน ขอให้บรรดาชาติตะวันตก ช่วยจัดหาระบบต้านขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพสำหรับยูเครน ระบุว่า ระบบป้องกันทางอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญที่จะหยุดยั้งการบุกจากรัสเซีย
นายเซเลนสกี พูดเรื่องนี้ก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียไปเยือนกรุงมินสค์ เบลารุสในวันนี้(19 ธันวาคม 2565) เพื่อหารือเรื่องความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนพูดคุยเรื่องความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเปิดแนวรบจุดที่ 2 คือ บุกจากเบลารุส(ทางภาคเหนือของยูเครน)เข้ามายังยูเครน ต่อเนื่องจากการเปิดแนวรบเดิมในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน หลังรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ส่วนสถานการณ์ในกรุงเคียฟในวันนี้ มีเสียงสัญญาณเตือนภัย ให้ประชาชนในกรุงเคียฟและทั่วทั้งพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน เข้าไปยังหลุมหลบภัย หรืออยู่ในอาคารบ้านเรือนที่ปลอดภัย มีการแชร์คลิปวิดีโอจุดที่เกิดเหตุระเบิดและระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนทางสื่อออนไลน์
ด้านนายเฮนรี คิสซินเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทในการจัดทำนโยบายยุติความมุ่งร้ายของสหรัฐฯต่ออดีตสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น ได้เขียนบทความลงในวารสาร เดอะสเป็คเทเตอร์( The Spectator)ระบุว่าการที่รัสเซียประกาศผนวกดินแดนยูเครนมาเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย นับว่า เป็นการเปลี่ยนสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์สำหรับรัสเซีย แต่เรื่องนี้จะช่วยให้เกิดสันติภาพในระยะยาวหรือไม่ เป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายต้องนั่งโต๊ะเจรจากัน
#ยูเครน
#การสู้รบ