สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง 1,157 คน จากการสำรวจทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคม 2565 เรื่อง "นักการเมืองไทย...ไปทางไหนดี" โดยเปรียบเทียบนักการเมืองไทยในวันนี้ กับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า
ยังเหมือนเดิม ร้อยละ 47.02
แย่ลง ร้อยละ 44.68
นักการเมืองที่ประชาชนอยากได้ คือ มีความรับผิดชอบ มีผลงาน ทำงานเร็ว แก้ปัญหาเร็ว ร้อยละ 79.22
พฤติกรรมนักการเมืองแบบที่เบื่อหน่ายหรืออยากให้หมดไป คือ การพูดแต่ทำไม่ได้ ไม่รักษาสัญญา พูดให้ร้าย ใส่ร้ายป้ายสี ร้อยละ 87.50
คิดว่านักการเมืองทุกคนควรสังกัดพรรคการเมือง ร้อยละ 40.71 และจะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ก็ได้ ร้อยละ 39.07
ส่วน “พรรคการเมือง” ที่ประชาชนต้องการ คือ เป็นพรรคการเมืองที่โปร่งใส ดำเนินกิจการของพรรคอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ร้อยละ 91.57
ปัญหาเร่งด่วนที่อยากให้นักการเมืองช่วยแก้ไข คือ
ปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่น ร้อยละ 76.78
รองลงมาคือ ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 68.17
สุดท้ายแนวทางที่คิดว่าจะทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยมากกว่าที่ผ่านมา คือ ต้องมีการเลือกตั้งที่โปร่งใส ยุติธรรม มาจากเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ร้อยละ 76.65
จากผลการสำรวจเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มเจนเนเรชั่น พบว่า กลุ่มคนเจน Z หรือ New Voter ในการเลือกตั้งครั้งหน้ามองว่านักการเมืองที่ต้องการต้องเป็นนักบริหาร มีประสบการณ์ และเบื่อหน่ายนักการเมืองที่ “ดีแต่พูด” โดยนักการเมืองจะสังกัดพรรคหรือไม่ก็ได้
ส่วนกลุ่มบูมเมอร์มองว่านักการเมืองต้องเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต และควรต้องสังกัดพรรคการเมือง ถึงแม้ทั้งสองเจนจะมีมุมมองต่อนักการเมืองที่ต่างกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าต่างก็ต้องการนักเมืองที่มีคุณภาพและเน้นการทำงานเพื่อพัฒนาประเทศเหมือนกัน ไม่ใช่นักการเมืองที่เล่นการเมืองไปวัน ๆ
....
#สวนดุสิตโพล