พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบหารือกับนายชาร์ล มีแชล (H.E. Mr. Charles Michel) ประธานคณะมนตรียุโรป ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ
หลังการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่การประชุมสุดยอดอาเซียน- EU สมัยพิเศษ เป็นครั้งแรกที่ผู้นำอาเซียนและประเทศสมาชิก EU มาประชุมกัน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ EU มียุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก เพิ่มบทบาทและปฏิสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกับอาเซียนและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค รวมทั้งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในความสัมพันธ์ไทย-อียูด้วย โดยกำลังจะลงนาม ความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Thai-EU Partnership and Cooperation Agreement: Thai-EU PCA) ที่สองฝ่ายจะใช้เป็นแผนความร่วมมือระหว่างกันต่อไป และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ที่เท่าเทียมกันของสองฝ่ายต่อไป ไทยพร้อมร่วมงานกับท่านอย่างใกล้ชิด เปิดรับต่อการปรึกษาหารืออย่างสร้างสรรค์ และพร้อมปฏิสัมพันธ์กับทุกหน่วยงานของ EU
ด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงการกระชับความร่วมมือท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความมั่นคงโลก โดยไทยเห็นความจำเป็นของการรักษาไว้ซึ่งพื้นที่การหารือที่ครอบคลุมทุกฝ่าย ใช้การให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเป็นตัวนำ ซึ่งประธานคณะมนตรียุโรปพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง รวมทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถ การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง บุคลากร และแนวปฏิบัติที่ดี พร้อมหารือเพิ่มเติมถึงการจัดตั้งกรอบการหารือด้านความมั่นคง เพื่อหารือในประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์ ความมั่นคงทางทะเล และการต่อต้านการก่อการร้าย กับไทยต่อไป
ส่วนความร่วมมือกับอาเซียน ประธานคณะมนตรียุโรปยืนยันในการให้ความสำคัญกับความเป็นแกนกลางของอาเซียน พร้อมร่วมมือกับไทยแสวงหาการหารือที่เปิดกว้าง สร้างสรรค์ ตลอดจนหลักการเรื่องการเคารพซึ่งกันและกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน และความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน
รายงานข่าวระบุว่า สหภาพยุโรปหรืออียู ต้องการกลับมากระชับความสัมพันธ์กับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับสงครามในยูเครนและความท้าทายจากจีน โดยใช้การทูตผลักดันให้เกิดแนวร่วมต่อต้านรัสเซีย หลังการรุกรานยูเครนได้ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมืองไปทั่วโลก แต่สมาชิก 10 ชาติอาเซียนมีท่าทีต่อรัสเซียแตกต่างกัน เช่น สิงคโปร์คว่ำบาตรรัสเซียตามอย่างตะวันตก เวียดนามและ สปป.ลาวที่มีความใกล้ชิดทางทหารกับรัสเซียวางตัวเป็นกลาง และงดออกเสียงเช่นเดียวกับไทย กรณีญัตติในสหประชาชาติเมื่อเดือนตุลาคมประณามรัสเซียที่พยายามผนวกดินแดนที่ยึดได้ในยูเครน
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ที่ประชุมสุดยอดหารือกันคือเรื่องจีน การที่จีนอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดทำให้เพื่อนบ้านไม่พอใจและยุโรปเกรงว่าจะกระทบการค้าผ่านน่านน้ำสำคัญนี้ จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอาเซียน และหลายประเทศในภูมิภาคไม่อยากตีตัวออกห่าง ขณะที่อียูพยายามเสนอตัวเป็นคู่ค้าที่เชื่อถือได้ของอาเซียนในยามที่จีนและสหรัฐแข่งขันกันรุนแรงขึ้นโดยอียูเตรียมประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 10,000 ล้านยูโร (ราว 367,808 ล้านบาท) ในอาเซียนภายใต้ยุทธศาสตร์โกลบอลเกตเวย์ (Global Gateway) ที่กำหนดขึ้นเพื่อต้านทานการแผ่อิทธิพลของจีน
#อาเซียนอียู
#เศรษฐกิจโลก
CR:ไทยคู่ฟ้า