นทท.แน่นสุวรรณภูมิ ตม.เพิ่มคน-เพิ่มช่องตรวจ คาดตั้งแต่ 2 พ.ย.ตรวจได้ 6,500 คน/ชม.

          นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น สนามบินต่างๆ เพิ่มช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการ รัฐบาลมั่นใจว่าในส่วนระยะเวลาที่เหลือจนถึงสิ้นปีนี้ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนถึง 10 ล้านคน ตามเป้าหมายที่รัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ตั้งเป้าไว้

          ขณะเดียวกัน เพจดาวแปดแฉก รายงานว่า พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ศท.ตม.ในฐานะโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึง การเผยแพร่ภาพผู้โดยสารปริมาณหนาแน่นมาก บริเวณจุดรอเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิว่าเป็นภาพจริงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ต.ค.65 ช่วงเวลา 13.00-17.00 น. ซึ่งมีเที่ยวบินลงถึง 76 เที่ยวบิน หรือชั่วโมงละประมาณ 20 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเฉลี่ยชั่วโมงละ 3,000 - 4,000 คน หนาแน่นสุดคือช่วง 14.00-16.00 น.

          สถานการณ์ดังกล่าว พล.ต.ต.มนตรี ปานเจริญ ผบก.ตม.2 สั่งการให้ พ.ต.อ.หญิง รุ่งทิพย์ เข็มทอง ผกก.ฝ่าย ตม.ขาเข้า ฯ จัดกำลังพลรองรับสถานการณ์ดังกล่าวเต็มกำลังทุกช่องตรวจ สามารถระบายผู้โดยสารให้เข้ารับการตรวจเฉลี่ยอย่างช้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง

          เจ้าหน้าที่ ตม.ใช้เวลาในการตรวจข้อมูลหนังสือเดินทาง ตรวจวีซ่า เก็บข้อมูลบุคคลด้วย Biometric และ เปรียบเทียบข้อมูล Blacklist ใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม. ต้องระมัดระวังบุคคลต่างชาติแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาทำผิด โดยเฉพาะกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ หรือ บุคคลที่อาจก่อเหตุความวุ่นวายในช่วงการประชุม APEC ที่จะถึงนี้

          พล.ต.ต.เชิงรณ กล่าวว่า พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.ได้ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการตรวจหนังสือเดินทางภายใต้หลักความมั่นคง นับตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ เมื่อ 1 พ.ย.64 ซึ่ง บก.ตม.2 ในฐานะที่รับผิดชอบ ด่าน ตม.สนามบินหลัก ได้มีมาตรการรับสถานการณ์ที่สำคัญ ได้แก่

1. จัดกำลังพลรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงหนาแน่น ให้นั่งเต็มทุกช่องตรวจ การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (AOT ) ช่วยสนับสนุนการจัดสร้างการขยายช่องตรวจจากเดิม 92 ช่อง เป็น 119 ช่องตรวจ โดยมีการเสริมกำลังพลที่ขาดแคลน นับตั้งแต่ 2 พ.ย.65 คาดว่า จะสามารถตรวจอนุญาตผู้โดยสารได้ราว 6,500 คนต่อชั่วโมง โดยไม่กระทบความมั่นคง

2. ขอรับการสนับสนุนจากการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (AOT) ช่วยจัดพนักงานผู้ช่วย Airport help ช่วยแนะนำ จัดแถวผู้โดยสาร พร้อมกับเตรียมจัดเรียงเอกสารพร้อมรับการตรวจ

          สำหรับมาตรการต่าง ๆ นี้ เป็นไปตามข้อกำชับ และนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่สั่งการให้ สตม.พร้อมสนับสนุนการลงทุนและการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลต่อไป โดยปัจจุบันมีคนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศทั้งทางอากาศและทางบก เฉลี่ยวันละประมาณ 45,000 - 50,000 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีของประเทศไทย หลังสถานการณ์โควิด-19

#นักท่องเที่ยวเข้าไทยพุ่ง

CR:ข้อมูล-ภาพ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,ดาวแปดแฉก