ไทยพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง รายที่ 5 พบเป็นหญิงไทย เดินทางกลับดูไบ มีอาการ-ตุ่มขึ้น

15 สิงหาคม 2565, 12:20น.


                 สถานการณ์ฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิงในประเทศไทย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า  พบผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษลิงรายที่ 5 โดยเป็นหญิงไทยอายุ 25 ปี มีประวัติเดินทางมาจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 14 ส.ค. มีการคัดกรองเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีอาการป่วยตั้งแต่ก่อนเดินทางจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่สังเกตพบตุ่มขึ้นที่ร่างกาย ผลการตรวจเชื้อติดเชื้อฝีดาษลิง จึงนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว จากการสอบสวนโรคไม่พบมีผู้สัมผัสใกล้ชิด เนื่องจากเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ จึงทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเพียงคนที่นั่งใกล้ ขณะโดยสารเครื่องบินแค่ 2 คน เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งได้ดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังต่อไป



          การติดเชื้อครั้งนี้ นับเป็นผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงเป็นรายที่ 5 และเป็นเพศหญิงรายที่สองของประเทศไทย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายชาวไนจีเรียที่ภูเก็ต รายที่ 2 ชายชาวไทย ในกรุงเทพมหานคร รายที่ 3 ชายชาวเยอรมันที่ภูเก็ต และรายที่ 4 เป็นหญิงไทย



          สำหรับการติดเชื้อฝีดาษลิง อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ไม่ได้ติดเชื้อง่ายแบบระบบทางเดินหายใจ หรือรับประทานอาหารร่วมกันแบบโควิด-19 แต่เป็นการติดเชื้อแบบสัมผัสใกล้ชิดจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าโรคนี้ติดจากเพศสัมพันธ์ เพียงแต่กิจกรรมที่พบว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งเป็นการสัมผัสแบบใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 30,000 คน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 6 รายเท่านั้น



          ด้านองค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ (ฮู) แถลงโดยคณะผู้เชี่ยวชาญได้เปลี่ยนชื่อ  ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ลุ่มน้ำคองโก จะเปลี่ยนชื่อเป็น สายพันธุ์ 1 หรือเคลด 1 (Clade I) ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก เปลี่ยนชื่อเป็น สายพันธุ์ 2 หรือเคลด 2 (Clade II) เพื่อหลีกเลี่ยงการดูหมิ่นทางวัฒนธรรม สังคม ชาติพันธุ์ ภูมิภาค และอาชีพ โดยชื่อใหม่เหล่านี้ ควรปรับให้ใช้ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการดูหมิ่นกัน รวมถึงเพื่อช่วยลดผลกระทบทางการค้า การเดินทาง การท่องเที่ยว ตลอดจนสวัสดิภาพของสัตว์ให้เหลือน้อยที่สุด



#ฝีดาษลิง

ข่าวทั้งหมด

X