กระทรวงการคลัง Ministry of Finance รายงานว่า ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยระหว่างการให้สัมภาษณ์ CNBC ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25 % ทำให้ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นจาก 0.50% เป็น 0.75% เป็นแนวทางที่ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจาก ประเทศอยู่ในวัฏจักรเศรษฐกิจที่แตกต่างกันมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่มีการเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นสูง ไม่จำเป็นที่ธนาคารกลาง จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงมาก เนื่องจาก กว่าที่การเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดก็จะเป็นในช่วงปลายปี
ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 เนื่องจาก แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า ในขณะที่ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ก้าวหน้ามากกว่ากำลังดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นและในอัตราที่เร็วขึ้น แต่วิธีการที่ค่อยเป็นค่อยไปและวัดผลได้ของไทยจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศจะดำเนินต่อไปไม่สะดุด
ธปท.คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2022 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อน จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงสู่ช่วงเป้าหมายในปี 2023 เนื่องจาก แรงกดดันด้านเงินเฟ้อด้านอุปทานบรรเทาลง
ส่วนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เศรษฐกิจของประเทศต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และน่าจะได้รับประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมโควิด-19 และการยกเว้นข้อกำหนดวีซ่า ก่อนโควิด-19 เรามีนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน เดินทางมาประเทศไทย ปีที่แล้วเรามีนักท่องเที่ยว 400,000 คน ธนาคารกลาง คาดว่าในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยว 8,000,000 คน
#ธนาคารแห่งประเทศไทย
#ดอกเบี้ย
CR:กระทรวงการคลัง Ministry of Finance
แฟ้มภาพ