กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯในเดือนกรกฎาคม ลดลงเล็กน้อย อยู่ที่ร้อยละ 8.5 จากร้อยละ 9.1 ในเดือนมิถุนายน หลังราคาน้ำมันลดลง แต่ในภาพรวมถือว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังคงอยู่ในอัตราที่สูง ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลาง(เฟด)ของสหรัฐฯจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าระหว่างวันที่ 20-21 กันยายนนี้
แต่ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ในเดือนกรกฎาคมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก หลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ในเดือนมิถุนายน ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ แต่ถ้าไม่นับรวมสินค้าจำพวกอาหารและพลังงาน ซึ่งผันผวนง่าย ตัวเลข CPI ในเดือนกรกฎาคมขยับขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือนขยับขึ้นร้อยละ 5.9 ในเดือนกรกฎาคม เท่ากับตัวเลขในเดือนมิถุนายน
สำหรับองค์ประกอบหลักๆที่มีผลให้ดัชนี CPI ของสหรัฐฯขยับขึ้นมีหลายตัว เช่น ผลกระทบด้านซัพพลายเชนทั่วโลก และการบุกยูเครนของรัสเซีย โดยเฉพาะราคาอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของดัชนี CPI ยังคงสูง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือนที่แล้ว หลังขยับขึ้นร้อยละ 1.0 ในเดือนมิถุนายน
ก่อนเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฟิวเจอร์สดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มกว่า 400 จุดหรือร้อยละ 1.2 ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้นร้อยละ 1.6 และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มร้อยละ 2.2 จากปัจจัยบวกคือ นักลงทุนเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือนกรกฎาคมขยับขึ้นต่ำเกินคาด อีกทั้งคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 0.75 ในเดือนกันยายนนี้
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของเฟด มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.75 สู่ระดับร้อยละ 2.25-2.50 ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
#สหรัฐฯ
#อัตราเงินเฟ้อ
#เศรษฐกิจ