นายราฟาเอล มาเรียโน กรอสซี ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ขอให้รัสซียยุติปฏิบัติการทางทหารใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น หวั่นเกรงจะเกิดอันตราย เพราะการที่รัสเซียยิงปืนใหญ่โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เมืองซาโปริเซียของยูเครน เข้าข่ายละเมิดหลักการด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์ครบทั้ง 7 ข้อ
ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับจากรัฐบาลยูเครน คณะผู้เชี่ยวชาญจาก IAEA เชื่อว่า การยิงปืนใหญ่โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวยังไม่มีผลกระทบด้านความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างชัดเจน เช่น การรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้า
ในช่วง 2-3 วันมานี้ ทั้งยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นฝ่ายยิงปืนใหญ่โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ทำให้หลายฝ่ายรู้สึกหวั่นเกรงเรื่องการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้า สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เมืองซาโปริเซียอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม แม้ยังคงอนุญาตให้ช่างชาวยูเครนปฏิบัติการในโรงไฟฟ้าดังกล่าวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศจากกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (กลุ่มจี-7) ได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษและสหรัฐ ประณามรัสเซียที่เข้ายึดครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครน พร้อมขอให้รัสเซียส่งมอบโรงไฟฟ้านั้นคืนให้กับยูเครนโดยทันที ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของยูเครนที่ปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้านั้นจะต้องสามารถปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ถูกข่มขู่หรือแรงกดดันจากรัสเซีย เพิ่มเติมว่าการที่รัสเซียยังคงควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนจะทำให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงทั่วภูมิภาคยุโรป
#IAEA
#ขอให้หยุดปฏิบัติการทางทหาร
#โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน
#กลุ่มจี-7