การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดรับฟังความเห็นประชาชนครั้งแรก หรือ การปฐมนิเทศโครงการ เพื่อให้การก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 หรือ MR 10 สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด
โครงการมีระยะทาง 104.74 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด เริ่มต้นจากจุดเชื่อมต่อทางพิเศษสายฉลองรัช บริเวณด่านจตุโชติ เขตสายไหม ตัดผ่านพื้นที่เขตคลองสามวา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อ.องครักษ์ อ.บ้านนา จ.นครนายก อ.เมืองสระบุรี และไปสิ้นสุดที่จุดตัดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข2 (ถนนมิตรภาพ) อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
น.ส.จริยา ทองจันทึก ผู้จัดการโครงการ ชี้แจงว่า โครงการนี้มีระยะทาง 105 กิโลเมตร ได้ผ่านความเห็นชอบขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสมและรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว กทพ. สามารถทำได้เลยทั้ง 105 กิโลเมตร แต่ขั้นตอนการดำเนินโครงการ จะต้องออกแบบรายละเอียด งบประมาณ แหล่งที่มาของเงิน เพื่อเสนอดำเนินโครงการ ดังนั้นโครงการนี้จะดำเนินการก่อนในช่วงแรก ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ประมาณ 17 กิโลเมตร ส่วนเส้นทางการก่อสร้างต่อจากจุดนี้ไปจนถึงจ.สระบุรี เป็นเรื่องหลักการและแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไป ทั้งสภาพแวดล้อม การสำรวจความเห็น สภาพเศรษฐกิจ และการจราจรที่เปลี่ยนไป หากจะก่อสร้างต่อ ก็จะต้องดำเนินการศึกษาถึงความเหมาะสมและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่
สำหรับการดำเนินการช่วงแรก เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2559 โครงการได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการแล้ว จากนั้นวันที่ 26 มี.ค.2564 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ขณะนี้ ผู้ให้บริการออกแบบรายละเอียดโครงการอยู่ระหว่างการศึกษา เช่นเดียวกับ งานศึกษาและจัดทำรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
นายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการฝ่ายก่อสร้างและบำรุงรักษา กทพ.เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นการแก้ไขปัญหาการคมนาคมขนส่งอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพทั้งโครงข่ายทางหลวงและโครงข่ายทางพิเศษ พร้อมทั้งเป็นการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ โครงการนี้จะช่วยทำให้ประชาชนที่อยู่รอบนอกกรุงเทพฯ และ จังหวัดโดยรอบ เดินทางเข้ากรุงเทพฯได้สะดวกมากขึ้น เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง รองรับการจราจรในอนาคต จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ไวส โปรเจ็ค คอนซัลติ้ง จำกัด และบริษัท เอ็นไวร์ไซน์ จำกัด ศึกษาและจัดทำรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีระยะเวลาศึกษารวม 12 เดือน เริ่มการศึกษาตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.65 และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนการรับฟังความคิดเห็น มีการแสดงความเป็นห่วงเรื่องระบบไฟส่องสว่าง การเวนคืนพื้นที่ถ.หทัยราษฎร์ และ การออกแบบก่อสร้าง
ผู้จัดการโครงการ ชี้แจงว่า โครงการได้ศึกษาเรื่องระบบการระบายน้ำตามมาตรฐานสากล ทางด่วนมีฝ่ายบำรุงรักษาบนทางยกระดับให้ได้มาตรฐาน ส่วนเรื่องการจ่ายเงินชดเชยพื้นที่ที่ต้องเวนคืน ในการประชุมกลุ่มย่อย ฝ่ายกรรมสิทธิ์ที่ดิน ของกทพ.จะชี้แจงเพิ่มเติม ยืนยันว่า การเวนคืนชดเชยด้วยความเป็นธรรม และสามารถอุทธรณ์ได้ ส่วนจะขยาย ถ.หทัยราษฎร์ รองรับโครงการหรือไม่ หลักการเบื้องต้น อยู่ระหว่างการศึกษาทบทวนความเหมาะสมเพื่อดูปริมาณรถ และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณา
#โครงการทางพิเศษสายฉลองรัชนครนายกสระบุรี
#ช่วงจตุโชติวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครรอบที่3
CR:กทพ.หอกระจายข่าว เพจ