นักวิเคราะห์จากบริษัทเอเอ็นแซด รีเสิร์ช (ANZ Research) ผู้วิจัยตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม หลังจากปิดตลาดเมื่อวานนี้(21 ก.ค.65) ร่วงลงร้อยละ 3 เนื่องจาก ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกในระยะนี้ ลดลงเกือบร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ 8.52 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดนับแต่ปี 2551 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันแพงขึ้นทำให้ผู้บริโภคใช้น้ำมันน้อยลง
ส่วนปริมาณน้ำมันดิบในตลาดลิเบีย หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) สามารถผลิตน้ำมันดิบตามปกติในสัปดาห์นี้ หลังหยุดส่งออกชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้นไม่มาก
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าขยับขึ้น 17 เซนต์ หรือร้อยละ 0.2 อยู่ที่ 104.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00.41 น.ของวันนี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัส สหรัฐฯตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทรงตัวอยู่ที่ 96.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงเกินคาดคือ ร้อยละ 0.50 เมื่อวานนี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)เตือนว่า ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่า สถานการณ์การสู้รบในยูเครนจะยืดเยื้อไปอีกหลายเดือน ทำให้คาดว่า ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ไปอีกระยะสัก แม้ว่าแนวโน้มทางเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่สดใส แต่ ECB คาดว่า กลุ่มอียู จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในปีนี้หรือปีหน้า
#ตลาดน้ำมันดิบ
#ราคาทรงตัว