นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ถนนรัชดาภิเษก(ขาเข้า) หลังจากเมื่อช่วงเช้านี้ เกิดอุบัติเหตุ รถปิคอัพ บรรทุกคนงานมาทั้งหมด 7 คน ชนเสาไฟฟ้า จุดเกิดเหตุอยู่ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา รัชดา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 2 คน
ขณะที่ พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน สรุปรายละเอียด พร้อมทั้งระบุว่า จุดนี้เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย เวลาที่มีฝนตก ถนนลื่น เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมความพร้อมทันทีทั้งกำลังตำรวจและรถยก ส่วนการปรับปรุงถนนทางด้านกายภาพ สำนักการจราจรและขนส่ง ได้ทาสีผิวถนนจราจร สิ่งที่เพิ่ม คือ การ์ดเรล (Guard Rail) เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากยานพาหนะ สามารถลดแรงปะทะ และสามารถป้องกันความเสียหายหรือลดอันตรายให้ผู้ขับขี่และคนเดินเท้าได้
ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า อุบัติเหตุเมื่อเช้านี้ เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งความเร็วของรถที่ไมล์รถค้างที่ 120 กม.ต่อชั่วโมง พื้นผิวการจราจรมีคราบฝุ่น เมื่อเจอฝนที่ตกลงมาทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และกายภาพของถนน ซึ่งต้องประมวลข้อมูลทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
แนวทางแก้ไข จะต้องทำป้ายสัญญาณให้ชัดเจน ด้วยการกำหนดลดความเร็วลงจากความเร็วปกติ เพราะเมื่อขับมาเร็ว ไม่สามารถคุมรถได้ ก็จะเกิดอุบัติเหตุ ขอฝากว่าหน้าฝน ก็ต้องลดความเร็วลงด้วย ถนนออกแบบมาอย่างไรก็ตาม ถ้าเราขับเร็วมากสุดท้ายมันก็ยากที่จะให้เกิดความปลอดภัย 100% ได้ ก็ต้องช่วยกัน กทม.ก็รับไปดูทุกจุด เพิ่มความปลอดภัยให้มากที่สุด แต่ก็ต้องขอความร่วมมือเรื่องการขับรถอย่าไปขับรถเร็ว ไม่ได้ถึงที่หมายเร็วขึ้นหรอก ก็ฝากเตือนใจประชาชนช่วยกันด้วย นอกจากนี้ ต้องหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจจะมีการตรวจจับความเร็ว หรืออาจจะเอารถตำรวจหรือเทศกิจมาเปิดไฟประจำไว้ที่จุดเสี่ยง เป็นการเตือนให้ชะลอความเร็ว และต้องไปดูกฎหมายเรื่องการนั่งท้ายกระบะด้วย เพราะที่เสียชีวิต 5 ราย 4 รายนั่งท้ายและกระเด็นออกมา
นโยบายของกทม.รวบรวมปัญหาจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุ น้ำท่วม รถติด จุดที่เกิดอาชญากรรมบ่อย ได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง รวบรวมจุดเสี่ยงทั้งหมดในกรุงเทพฯ เพื่อทำแผนที่จุดเสี่ยงเพื่อให้เห็นชัดเจน ขณะนี้กำลังจัดทำแผนที่ คาดว่าน่าจะเสร็จในสัปดาห์หน้า ในกรุงเทพฯ มีจำนวนจุดเสี่ยงจำนวนมาก จะมาดูและเรียงลำดับจุดสำคัญ ซึ่งจุดที่เกิดอุบัติเหตุช่วงโค้งศาลอาญาเป็นจุดสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า เวลาที่เราจะแก้ปัญหาต้องเริ่มจากจุดเสี่ยงที่มีความเสี่ยงสูงก่อน โดยเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้กำหนดจุดลงในแผนที่ให้เห็นว่ามีจุดเสี่ยงตรงไหนบ้าง จุดไหนมีอุบัติเหตุมาก น้อยแค่ไหน จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยก็จะเป็นสีแดง และสามารถเข้าไปเร่งรัดปรับปรุงแก้ไขในจุดนั้นๆได้
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.js100.com/en/site/news/view/118504
CR:มูลนิธิร่วมกตัญญ,AL594,กรุงเทพมหานคร โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์